หลังจากรัฐบาลเคาะจัดงานมหาสงกรานต์ 21 วันรวด เริ่มตั้งแต่ 1 - 21 เม.ย. อีกทั้งยังใจดีเพิ่มวันหยุดพิเศษให้ ทำให้คาดว่าสงกรานต์ปีนี้ น่าจะคึกคักเป็นอย่างมาก
ฝั่งภาคเอกชน เริ่มเห็นสัญญาณจองที่พักที่สูงขึ้นในจังหวัดท่องเที่ยว เรียกว่าแทบจะทุกภาค โดยในส่วนภาคเหนือ แม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) สูง แต่ช่วงสงกรานต์ก็ยังเห็นสัญญาณการจองที่พักที่สูงขึ้น ในจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย รวมถึงเมืองรองทางภาคเหนือ
สำหรับภาคใต้ โดยเฉพาะ 4 พื้นที่หลัก ทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ และสมุย เป็นไฮซีซันต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 66 ส่วนของภาคตะวันออก ตะวันตก และภาคกลาง ทั้งพัทยา ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ยอดจองที่พักก็ค่อนข้างดีเช่นกัน
นายกิตติ พรศิวะกิจ โฆษกและประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และบอร์ดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดการณ์ว่า ในช่วงสงกรานต์ตลอด 21 วัน (ตั้งแต่วันที่ 1-21 เม.ย. 67) จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยไม่ต่ำกว่า 2.5 ล้านคน ขณะที่ทั้งเดือนเม.ย. คาดจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 3.2 ล้านคน
สำหรับไทยเที่ยวไทย คาดตลอดทั้งเดือนเม.ย. มีนักท่องเที่ยวประมาณ 30 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ประมาณ 102,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 18 ล้านคน-ครั้ง หรือ 60% เป็นนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืน คาดสร้างรายได้ 90,000 ล้านบาท และอีก 12 ล้านคน-ครั้ง หรือ 40% เป็นนักทัศนาจร (1 day trip) คาดสร้างรายได้ 12,000 ล้านบาท
"ปีนี้สถานการณ์ 3 เดือนที่ผ่านมา โรงแรมยังเป็น K-Shape โรงแรม 4-5 ดาว ในเมืองหลัก มีอัตราการเข้าพัก (occupancy) สูงขึ้น 15-20% และอัตราเฉลี่ยรายวัน (ADR) ดีขึ้น 10-20% ส่วนโรงแรม 3 ดาว ยังประสบปัญหาเรื่องอัตราการเข้าพักต่ำกว่า 60-70% มีการแข่งขันเรื่องราคา และขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ ส่วนประเด็นเรื่องไฟล์ทบินจากต่างประเทศ ก็ทยอยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุด จะมีการเพิ่มไฟล์ทเพื่อแก้ปัญหาตั๋วราคาแพงด้วย" นายกิตติ กล่าว
อย่างไรก็ดี มีความกังวลในเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะในพื้นที่แออัดที่จัดงานสงกรานต์ อย่างถนนข้าวสาร หรือสีลม ซึ่งก็มีการพูดคุยกันในหลายฝ่าย เรื่องการแก้ปัญหาให้นักท่องเที่ยวไม่แออัด เกิดการท่องเที่ยวแบบกระจายตัว ลดอุบัติเหตุ และไม่ให้เกิดเหตุร้าย
ด้าน นายชัยพฤกษ์ ทองคำ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) มองว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้สามารถแตะ 40 ล้านคนได้ เนื่องจากมองว่านักท่องเที่ยวนอกเหนือจากประเทศหลัก ก็มีความสนใจจะมาเที่ยวไทยมากขึ้น
แต่มองว่าไฟล์ทบินยังรองรับไม่เพียงพอเท่าที่ควร ขณะเดียวกัน ควรต้องเตรียมทั้งทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรบุคคลให้มีความพร้อมด้วย เนื่องจากถ้านักท่องเที่ยวทะลักเข้ามาจะมีปัญหาที่เมืองหลัก อย่างพัทยา หรือภูเก็ต ดังนั้น ต้องเตรียมเมืองรองเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ Over Demand ด้วย