นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน ถึงการปรับแผนการคลังระยะปานกลางว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงเรื่องของรายได้ รายจ่าย ก็ต้องมาปรับที่แผนการคลังระยะปานกลางให้สอดคล้องกัน ซึ่งอย่างน้อยต้องปรับปีละ 1 ครั้ง แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถปรับในระหว่างทางได้ แต่ยอมรับว่าทำให้ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ยังประเมินรายได้ไว้เท่าเดิม
"ก็ดูว่า ระหว่างการจัดทำงบประมาณปี 68 ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ควรจะปรับบางรายการ เพื่อไปดูแลภาคเศรษฐกิจให้มากขึ้น" นายลวรณ กล่าว
พร้อมระบุว่า การจัดทำงบประมาณปี 68 ได้จัดทำมาแล้ว 1 ปี ซึ่งหากพิจารณาสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ ได้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเวลานั้นแล้ว ดังนั้นจึงมาพิจารณาความเหมาะสม และเห็นว่าควรปรับในบางรายการของ ปี 68 เพื่อให้สะท้อนภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ด้านนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ที่ประชุมมีการหารือเรื่องการปรับแผนการคลังระยะปานกลาง ตามความเหมาะสมเพื่อรองรับเศรษฐกิจ เพื่อจะได้มีเม็ดเงินก้อนหนึ่งสำหรับไปใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้
ส่วนเม็ดกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว จะถูกนำมาใช้กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ นายพรชัย กล่าวว่า ยังพูดไม่ได้ ต้องดูภาพรวมในเรื่องแผนการคลังก่อน ส่วนจะขาดดุลงบประมาณเท่าไรนั้น ต้องรอเข้า คณะรัฐมนตรี (ครม.)ก่อน