กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นในเดือนเม.ย.ปี 2551 ร่วงลงแตะ 1.00 ล้านล้านดอลลาร์ นับเป็นสถิติที่ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 11 เดือน จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.02 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค. อันเป็นผลมาจากเงินยูโรที่อ่อนค่าลง และราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ลดลง
ข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นยังคงมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากจีน โดยขณะนี้ทุนสำรองของจีนมีอยู่ถึง 1.68 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นสุดเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา
สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นประกอบไปด้วยหลักทรัพย์และเงินฝากในรูปสกุลเงินต่างประเทศ รวมทั้งเงินสำรองสำหรับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สิทธิ์ถอนเงินพิเศษ (SDRs) และทองคำ
เมื่อช่วงสิ้นสุดเดือนเม.ย. 2551 ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศโดยรวมของญี่ปุ่น อยู่ที่ 9.77 แสนล้านดอลลาร์ ทุนสำรองสำหรับ IMF อยู่ที่ 1.38 พันล้านดอลลาร์ สิทธิ์ถอนเงินพิเศษ (SDRs) อยู่ที่ 3.14 พันล้านดอลลาร์ สำรองทองคำมูลค่า 2.143 หมื่นล้านดอลลาร์ และสินทรัพย์ในรูปสกุลเงินอื่นๆมูลค่า 375 ล้านดอลลาร์
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดในฐานะข้อมูลที่เป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า ญี่ปุ่นจะจัดการกับสกุลเงินต่างประเทศที่ถืออยู่เป็นจำนวนมากนี้อย่างไร ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อตลาดปริวรรตเงินตราและตลาดพันธบัตรทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดพันธบัตรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของญี่ปุ่นเกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา เพื่อสกัดกั้นเงินเยนไม่ไห้แข็งค่าขึ้นมากเกินไป แต่นับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมี.ค.ปี 2547 เป็นต้นมา รัฐบาลญี่ปุ่นไม่ได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราอีกจนถึงขณะนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/รัตนา โทร.0-2253-5050 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--