น.ส.สุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท. ได้ออกมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู (รวมสินเชื่อเพื่อการปรับตัว) และโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เป็นระยะเวลา 2 ปี เริ่มตั้งแต่เดือน เม.ย.64 และได้ขยายระยะเวลาเฉพาะส่วนของมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู โดยเพิ่มส่วนของสินเชื่อเพื่อการปรับตัวเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจ SMEsในการปรับปรุง พัฒนา และเสริมศักยภาพธุรกิจ ออกไปอีก 1 ปี ซึ่งได้ครบกำหนดแล้วในวันที่ 9 เม.ย.67 นั้น
จากมาตรการดังกล่าว ธปท. ได้อนุมัติวงเงินสินเชื่อสำหรับโครงการสินเชื่อฟื้นฟู (รวมสินเชื่อเพื่อการปรับตัว) และโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ให้กับลูกหนี้รวมทั้งสิ้น 67,725 ราย เป็นวงเงินสินเชื่อ 347,739 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 99.4% ของวงเงินรวมที่ตั้งไว้ที่ 350,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดการอนุมัติสินเชื่อแต่ละประเภท ดังนี้
1. สินเชื่อฟื้นฟู (รวมสินเชื่อเพื่อการปรับตัว) ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจจำนวน 67,225 ราย รวมทั้งสิ้น 273,625 ล้านบาท โดยมีวงเงินอนุมัติเฉลี่ยต่อราย 4 ล้านบาท ซึ่งการให้สินเชื่อกระจายตัวดี ทั้งในมิติของขนาด ประเภทธุรกิจ และภูมิภาค โดยส่วนใหญ่หรือ 72% เป็นผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก ที่มีวงเงินสินเชื่อเดิมกับสถาบันการเงินต่ำกว่า 50 ล้านบาท และ 69% อยู่ในภูมิภาคต่างๆ นอกกรุงเทพและปริมณฑล ในจำนวนนี้เป็นการให้สินเชื่อเพื่อการปรับตัว 11,162 ล้านบาท แก่ผู้ประกอบธุรกิจ 693 ราย วงเงินอนุมัติเฉลี่ยต่อราย 16 ล้านบาท โดยวงเงินส่วนใหญ่ 65% เป็นสินเชื่อเพื่อการปรับตัวด้านสิ่งแวดล้อม (Green) เช่น การลงทุนระบบประหยัดพลังงาน รองลงมา 18% เป็นด้านนวัตกรรม (Innovation) และ 17% เป็นด้านดิจิทัลเทคโนโลยี (Digital technology)
2. สินเชื่อโครงการพักทรัพย์ พักหนี้ ให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจ 500 ราย วงเงินรวม 74,114 ล้านบาท จากวงเงินที่ตั้งไว้ 100,000 ล้านบาท โดยวงเงินส่วนที่เหลือ ได้โอนไปเป็นวงเงินเพิ่มให้สินเชื่อฟื้นฟู
"ธปท. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สินเชื่อเพื่อการฟื้นฟู, สินเชื่อเพื่อการปรับตัว รวมถึงสินเชื่อโครงการพักทรัพย์พักหนี้ดังกล่าว จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ และสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องในช่วงเวลาดังกล่าว" น.ส.สุวรรณี กล่าว
พร้อมระบุว่า ภายใต้เศรษฐกิจปัจจุบันที่การฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึง ธปท. จะยังมีมาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะต่อไป