ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.39 แข็งค่ากว่าภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลเข้าหนุน จับตากนง.-บอร์ดดิจิทัลพรุ่งนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday April 9, 2024 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.39 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.71 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทแข็งค่ากว่าทุกสกุลเงินในภูมิภาค ระหว่างวันเคลื่อนไหวในกรอบ 36.39-36.72 บาท/ดอลลาร์ โดยรวมตลาด ในประเทศการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง เพราะมีบางส่วนเริ่มหยุดก่อนสงกรานต์แล้ว จึงทำให้เงินบาทแข็งค่าไปค่อนข้างเร็ว นอกจากนี้ ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย หลังรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปิดบวก

อย่างไรก็ดี พรุ่งนี้ (10 เม.ย.) ตลาดจับตาไปที่ 2 ไฮไลท์สำคัญ คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งรอบนี้ตลาดเสียงแตก เพราะมีทั้งฝั่งที่คาดว่าคงดอกเบี้ย และฝั่งที่คาดว่าลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ ต้องติดตามรายละเอียดของโครงการดิจิ ทัลวอลเล็ต ทั้งในเรื่องที่มาของแหล่งเงิน ตลอดจนเงื่อนไขการได้รับสิทธิต่างๆ

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ คืนพรุ่งนี้ ต้องติดตามการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) หรือเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของสหรัฐ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.25-36.50 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 151.81 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 151.89 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0866 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0856 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,401.11 จุด เพิ่มขึ้น 25.53 จุด (+1.86%) มูลค่าซื้อขาย 48,387.73 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 6,063.52 ล้านบาท
  • ครม. เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง
และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ทั้งห่วงโซ่อุปทานการผลิต (Supply Chain) ส่งเสริมการลงทุน
ภายในประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงาน การผลิต รวมถึงอาจก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยี ซึ่งจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ในภาพรวมในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากประมาณการอีก 1.7-1.8%
  • กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เผยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม ตั้งแต่ 1 ม.ค.-7 เม.ย.67 มีทั้งสิ้น 9,988,151
คน สร้างรายได้จากการใช้จ่าย 4.84 แสนล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1.88 ล้านคน
รองลงมา คือ มาเลเซีย 1.24 ล้านคน อันดับ 3 รัสเซีย 6.6 แสนคน อันดับ 4 เกาหลีใต้ 5.88 แสนคน และอันดับ 5 อินเดีย 5.1
แสนคน
  • ธนาคารกลางจีน (PBOC) เข้าซื้อทองคำเข้าสู่กองทุนสำรอง ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 17 ในเดือนมี.ค. โดยการเข้าซื้อ
ทองคำอย่างต่อเนื่องของจีน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลก พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แถลงต่อรัฐสภาญี่ปุ่นว่า BOJ จะเดินหน้าปรับลดการกระตุ้นด้านการเงิน (monetary
stimulus) ต่อไป หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานของญี่ปุ่น เคลื่อนตัวใกล้ระดับ 2% ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าว นับเป็น
การส่งสัญญาณว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ตามที่ตลาดคาด
  • รมว.คลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ญี่ปุ่นกำลังจับตาความเคลื่อนไหวของตลาดปริวรรตเงินตราอย่างเร่งด่วน และจะไม่ตัดทาง

เลือกใด ๆ ในการตอบสนอง อย่างเหมาะสมต่อความผันผวนที่มากเกินไป ขณะที่เงินเยนอ่อนค่าลงสู่ระดับเกือบ 152 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่ง

ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ