นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.61 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.66 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดโลกจากปัจจัยเรื่องอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ โดย ตลาดปรับคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนั้นมีโอกาสน้อยลง โดยอาจขยายออกไปเป็นช่วงไตร มาสที่ 3/67 ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.57-36.79 บาท/ดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรราว 7 พันล้าน บาท
"บาทปิดตลาดแข็งค่าจากช่วงเช้า ปัจจัยสำคัญวันนี้มาจากเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ทำให้ตลาดปั่นป่วนไปหมด ตลาดมองว่าโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ยช่วงกลางปีนี้มีน้อยลง อาจเลื่อนไปไตรมาส 3" นักบริหารเงิน กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ที่ 36.50 - 36.80 บาท/ดอลลาร์ โดยช่วงวัน หยุดยาวจะมีการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ 153.19 เยน/ดอลลาร์ นิวไฮในรอบ 34 ปี จากช่วงเช้าที่ระดับ 152.85 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0730 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0744 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,396.38 จุด ลดลง 11.79 จุด, -0.84% มูลค่าซื้อขาย 42,952.35 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,860.55 ล้านบาท
- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ยังคาดว่า กนง. จะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ แม้รอบการ
- Krungthai COMPASS คาดว่า กนง. จะทยอยปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจำนวน 2 ครั้งในปีนี้ (ครั้งละ 25bps) สู่
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท) เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมี.ค. 67
- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ไตรมาส
- นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนอาจจะขยายตัว 4.6% ในไตรมาส 1/2567
- ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดแนวโน้มความน่าเชื่อถือของจีนลงสู่ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ" โดยระบุถึงความเป็นไปได้
- ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจล่าสุดในวันนี้ (11 เม.ย.) โดยระบุว่า
- อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า การที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในเดือนมี.ค.
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมนโยบายการเงินประจำวันที่ 19-20 มี.ค. โดยระบุว่า กรรม
- องค์การการค้าโลก (WTO) คาดการณ์ว่า ปริมาณการค้าโลกจะขยายตัว 2.6% ในปี 2567 และเพิ่มขึ้นอีก 3.3% ในปี
2568 หลังจากลดลงมากกว่าคาด 1.2% ในปี 2566 เนื่องจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อการค้า
ระหว่างประเทศ