นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของสิงคโปร์ในเดือนมี.ค.2551 จะดีดตัวขึ้น หลังจากที่ได้ร่วงลงเกินคาดในเดือนก.พ. ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้น แม้ว่ายอดขายรถยนต์จะชะลอตัวลงก็ตาม
นักเศรษฐศาสตร์ที่ธอมสัน ไอเอฟอาร์ สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกในเดือนมี.ค.จะขยายตัว 6.5% จากระดับในปีก่อนหน้านี้ แต่ลดลง 5.9% จากระดับในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติสิงคโปร์จะเปิดเผยตัวเลขยอดค้าปลีกประจำเดือนมี.ค.ในวันพฤหัสบดีหน้า
อัลวิน หลิว นักเศรษฐศาสตร์จากสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด แบงค์ กล่าวว่า ยอดค้าปลีกในเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการซื้ออาหารอาจปรับตัวเพิ่มขึ้น อันเป็นผลมาจากราคาสินค้าที่สูงขึ้น
ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค.ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ยอดค้าปลีกเพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยมีตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในสิงคโปร์ 908,000 คนในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5.7% จากระดับในปีก่อนหน้านี้
ส่วนยอดการใช้บัตรเครดิตทั้งหมดในเดือนมี.ค.ขยายตัวแตะระดับ 2.1 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เมื่อเปรียบเทียบกับระดับ 1.8 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีที่แล้ว
"ยอดขายสินค้าในธุรกิจไอทีที่เพิ่มขึ้นแตะระดับ 54.5 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในเดือนมี.ค.ก็อาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หนุนให้ยอดค้าปลีกโดยรวมในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น " นายคิต เหว่ย เจง นักเศรษฐศาสตร์จากซิตี้กรุ๊ปกล่าว
"ยอดขายรถยนต์ที่ลดลง อาจทำให้ยอดค้าปลีกชะลอตัวลง โดยยอดขายรถยนต์ร่วงลงแตะ -13.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นฉุดให้ยอดขายรถยนต์ใหม่ลดลง" เดวิด โคเฮน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากแอ็คชั่น อิโคโนมิกส์กล่าว
ยอดขายรถยนต์ที่ลดลง และฐานการเปรียบเทียบที่สูงขึ้นทำให้ยอดค้าปลีกในเดือนก.พ.ลดลง 1.3% จากระดับในปีก่อนหน้านี้
นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ผันผวน จะเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตราการใช้จ่ายผู้บริโภคลดลง โดยอัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ในเดือนมี.ค.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปีที่ 6.7% สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วณิชชกร ควรพินิจ/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--