อัตราเงินเฟ้อของจีนอาจทรงตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบกว่า 11 ปี ซึ่งตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นถึงความท้าทายของรัฐบาลในการหามาตรการควบคุมราคาสินค้าที่ไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์ 22 รายจากโพลล์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กคาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนเม.ย.อาจปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.2% จากปีก่อนหน้านี้ หลังจากที่พุ่งขึ้น 8.3% ในเดือนมี.ค. ทั้งนี้ สำนักงานสถิติจีนจะเปิดตัวตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในวันจันทร์ที่ 12 พ.ค.นี้
ด้านนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนกำลังพยายามหามาตรการชะลอความร้อนแรงของราคาสินค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากราคาอาหารที่ปรับสูงขึ้น โดยมาตรการดังกล่าวจะต้องไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในยามที่อุปสงค์ทั่วโลกชะลอตัวลง ทั้งนี้ ตัวเลขเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นทำให้จีนมีความเสี่ยงต่อการเผชิญภาวะไร้เสถียรภาพขณะที่จีนกำลังเตรียมรับมือกับมหกรรมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
เหลียง ฮอง นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ในฮ่องกงกล่าวว่า "ประเทศใดก็ตามที่ตัวเลขเงินเฟ้ออยู่เหนือระดับ 8% จะเผชิญกับวิกฤติการณ์ข้าวหยากหมากแพงในท้ายที่สุด ซึ่งประเด็นเรื่องความมีเสถียรภาพถือเป็นนโยบายสำคัญอันดับแรกของจีน ขณะที่จีนยังไม่สามารถแก้ปัญหาเงินเฟ้อในขณะนี้ได้"
ทั้งนี้ ราคาอาหารมีสัดส่วนคิดเป็น 1 ใน 3 ของดัชนีราคาผู้บริโภค โดยราคาธัญพืช ไข่ไก่ อาหารทะเล ผัก และเนื้อสัตว์ในเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นเฉลี่ย 21% จากปีก่อนหน้านี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--