ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 37.01 กลับมาแข็งค่ารับแรงขายดอลลาร์ รอลุ้นตัวเลข GDP สหรัฐ-ผลประชุม BOJ

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday April 25, 2024 17:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 37.01 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 37.08 บาท/ดอลลาร์

ช่วงเช้าที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าตามการเร่งตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรัฐบาลสหรัฐ โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวใน กรอบ 36.99-37.17 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเมื่อขึ้นไปถึงระดับสูงสุดของวัน ก็เริ่มมีแรงขายดอลลาร์ออกมา จึงทำให้ปิดตลาดเย็นนี้ เงินบาท กลับไปแข็งค่าอยู่ใกล้ระดับ 37 บาท/ดอลลาร์

คืนนี้ ตลาดรอดูตัวเลขสำคัญ คือ GDP ไตรมาส 1/2567 ของสหรัฐ ซึ่งเป็นการประมาณการเบื้องต้น ครั้งที่ 1 รวมทั้งพรุ่ง นี้ (26 เม.ย.) ตลาดจับตาผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ว่าจะตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินอย่างไร หลังจากเงินเยน อ่อนค่าไปแตะ 155 เยน/ดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นการอ่อนค่าสุดในรอบ 34 ปี

"คืนนี้ ตลาดรอดูการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาสแรกปีนี้ของสหรัฐ ส่วนพรุ่งนี้ รอผลประชุม BOJ ซึ่งตลาดค่อนข้างระมัด ระวังการเข้าไปแทรกแซงค่าเงินเยน หลังจากที่เยนอ่อนค่าไปถึง 155 เยน/ดอลลาร์" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.95 - 37.20 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.64 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 155.37 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0725 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0702 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,364.27 จุด เพิ่มขึ้น 3.17 จุด (+0.23%) มูลค่าซื้อขาย 41,433.97 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,756.90 ล้านบาท
  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการเกี่ยวกับการจัด
ให้มีโครงการทดสอบและพัฒนานวัตกรรม เพื่อสนับสนุนการให้บริการธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Regulatory Sandbox)
เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถทดสอบการให้บริการที่เป็นประโยชน์ และพัฒนานวัตกรรมในตลาดทุนภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต.
ได้อย่างเหมาะสม
  • สมาคมธนาคารไทย ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ในระหว่างที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่
และไม่ทั่วถึง ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) 0.25% สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME เป็น
เวลา 6 เดือน
  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในเดือนมี.ค.67 ยอดผลิตรถยนต์ลดลง 23.08% ยอดขายลด
ลง 29.83% ยอดส่งออกลดลง 3.35% ขณะที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2,965% ส่วนขายรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ลดลง 28.38%
  • นักเศรษฐศาสตร์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2567 หลังจีนเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเกินคาดใน
ไตรมาส 1/2567 อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์มองเห็นสัญญาณมากขึ้นที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีนจะต้องดิ้นรน เพื่อหลีกเลี่ยงแรงกดดันจาก
ภาวะเงินฝืด
  • นักลงทุนกำลังจับตาการดำเนินนโยบายแบบเป็นโดมิโน่ครั้งถัดไปในเอเชีย ท่ามกลางการเร่งหาทางรับมือกับภาวะเงิน
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า หลังธนาคารกลางอินโดนีเซีย ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสวนทางการคาดการณ์ตลาด เพื่อสกัดไม่ให้เงินรูเปีย
ห์อ่อนค่า
  • ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของเยอรมนี เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2565 ซึ่งเป็นสัญญาณ
ว่าเศรษฐกิจของเยอรมนีอาจกำลังฟื้นตัว แนวโน้มเชิงบวกนี้สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจที่แข็งแกร่งซึ่งเผยแพร่ต่อสาธารณชนในช่วง
ต้นสัปดาห์นี้
  • คืนนี้ สหรัฐฯ จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวล
รวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2567 (ประมาณการเบื้องต้น) และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (Pending Home
Sales) เดือนมี.ค.
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีกำหนดเปิดเผยผลการประชุมนโยบายการเงินในวันศุกร์นี้ (26 เม.ย.)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ