นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 37.07 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าเปิดตลาด ที่ระดับ 37.04 บาท/ดอลลาร์ โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.98 - 37.09 บาท/ดอลลาร์
เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาควันนี้อ่อนค่าเล็กน้อย คาดว่ามาจากการที่ตลาดให้ความสนใจกับเงินเยนที่เมื่อเช้าอ่อนค่าไปแตะ ที่ระดับ 160 เยน/ดอลลาร์ หรือเป็นระดับที่อ่ออนค่าสุดในรอบ 34 ปีครั้งใหม่ แต่ช่วงบ่ายถึงเย็น เงินเยนกลับมาแข็งค่าอย่างรวดเร็วอยู่ ที่ 155 เยน/ดอลลาร์ หรือวันนี้มีการเคลื่อนไหวประมาณ 0.6 เยน/ดอลลาร์ โดยคาดว่าทางการญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาด อย่างไรก็ดี ยัง ไม่มีการยืนยันการแทรกแซง และวันนี้ตลาดญี่ปุ่นหยุดทำการ
สำหรับปัจจัยในประเทศที่ส่งผลต่อเงินบาทวันนี้ คือตัวเลขส่งออกของไทยเดือนมี.ค. ที่ -10.9% แย่กว่าที่ตลาดคาดว่าจะลบ เพียง 4% ส่วนวันนี้นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรไทยสุทธิ 1,200 ล้านบาทเท่านั้น
นักบริหารเงิน คาดว่า วันพรุ่งนี้บาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.90 - 37.20 บาท/ดอลลาร์ โดยปัจจัยที่ต้องติดตามใน วันพรุ่งนี้ คือ ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมี.ค. จากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 37.0681 บาท/ดอลลาร์
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 155.81 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 159.45 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0700 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0712 ดอลลาร์/ยูโร
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทย เดือน
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 67 อยู่ที่ 2.4%
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมี.ค.67 มีสัญญาณชะลอตัวจากการส่ง
- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไป
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวต่างประเทศ โดยระบุว่า ธปท.จะตัดสินใจเรื่องอัตรา
- ราคาบิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ
- ประธานการประชุมเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum: WEF) ได้แสดงมุมมองเชิงลบเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ
- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดฉากการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 30 เม.ย. และจะแถลงมติการประชุมใน
วันพุธที่ 1 พ.ค.ตามเวลาสหรัฐ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเกือบ 100% ที่
เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้