นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการหารือกับนายพิชัย ชุณหวชิร ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นการส่วนตัว แต่เชื่อว่านายพิชัย เป็นผู้มีประสบการณ์ มีความรู้ความเข้าใจนโยบายด้านเศรษฐกิจ และจากประสบการณ์ที่ได้ทำงานร่วมกับภาคเอกชนมาอย่างยาวนาน จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ในการเดินหน้านโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาลได้
ส่วนนายพิชัย จะเข้ามาดูแลโครงการดิจิทัลวอลเล็ตโดยตรงหรือไม่นั้น ต้องให้เป็นอำนาจการพิจารณาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งตนในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet คาดว่าจะมีการเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในสัปดาห์นี้ และจะมีการหารือกันทุกสัปดาห์ เพื่อพิจารณารายละเอียด หลักการใช้จ่ายเงินในโครงการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว
"ในหลักการ จะต้องวางแนวทาง Negative List ในหลายประเด็น สินค้าใดบ้างไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ต้องเป็นสินค้านำเข้า (Import Content) เช่น ห้ามนำไปใช้เติมน้ำมัน เพราะนำเข้า 100% ไม่ก่อให้เกิดการผลิตและการจ้างงาน ส่วนสินค้าที่อยู่ในการพิจารณา เช่น สมาร์ทโฟน ไอโฟน และเครื่องใช้ไฟฟ้า ณ ขณะนี้ยังไม่ได้ห้าม ต้องเอาข้อมูลมาดู รวมทั้งร้านค้าที่จะเข้าร่วมโครงการได้ ต้องมีคำจำกัดความที่ชัดเจน" รมช.คลัง กล่าว
พร้อมระบุว่า ในข้อเท็จจริง จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมที่สุด เช่น ปุ๋ยเคมี แม้เป็นสินค้าที่มีการนำเข้า แต่ก็สามารถใช้ดิจิทัลวอลเล็ตซื้อได้ เพราะถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อการประกอบอาชีพ
"สินค้าอื่น ๆ ก็ต้องหารือร่วมกันในที่ประชุมคณะกรรมการ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ 100% เพราะบางอย่าง ก็ต้องมีการถอยบ้าง" นายจุลพันธ์ กล่าว