น.ส.จุฑาศรี คูวินิชกุล ผู้ร่วมก่อตั้ง YouTrip ประเทศไทย กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ YouTrip พบการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมียอดใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้น 150% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) ซึ่งปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มที่ดีขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หลังจากการฟื้นตัวของสถานการณ์โควิด-19 ประกอบกับการมีจุดหมายปลายทางที่ได้รับการยกเว้นวีซ่าเพิ่มมากขึ้น ตามข้อตกลงการเดินทางแบบทวิภาคี
น.ส.จุฑาศรี กล่าวว่า สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ประเทศญี่ปุ่น ยังคงครองอันดับ 1 โดยพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ใช้ YouTrip ที่เดินทางไปต่างประเทศ เลือกมุ่งหน้าเดินทางสู่ประเทศญี่ปุ่น ปัจจัยสนับสนุนหลักที่ทำให้เป็นจุดหมายยอดนิยม คือ วัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว อาหารท้องถิ่น และแหล่งชอปปิ้งหรู ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินเยนของญี่ปุ่นที่อ่อนค่าลง (JPY) ยิ่งเป็นแรงผลักดันสำคัญให้การท่องเที่ยวคึกคัก
ทั้งนี้ จากข้อมูลการใช้จ่ายของผู้ใช้ YouTrip พบว่า การใช้จ่ายเพื่อการชอปปิ้งสูงเป็นอันดับ 1 หรือคิดเป็น 58% โดยในหมวดหมู่ประเภทสินค้าของนักท่องเที่ยวที่ไปญี่ปุ่นนิยมซื้อ คือ สินค้าแบรนด์หรู ที่กลายเป็นส่วนสำคัญของการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นของคนไทย โดยมียอดใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
นอกจากนี้ YouTrip ยังพบว่าพฤติกรรมของผู้ใช้มีการแลกเงินบาท (THB) เป็นเงินเยน (JPY) ผ่านกระเป๋าเงิน JPY ภายในแอปฯ เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว การอ่อนค่าของเงินเยนเมื่อเทียบกับเงินบาท และการล็อกเรทล่วงหน้าง่ายภายในแอปฯ YouTrip ล้วนส่งผลให้ญี่ปุ่นครองแชมป์จุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของจุดหมายปลายทางอันดับ 2 คือ ประเทศจีน โดยพบว่า ความสนใจของนักท่องเที่ยวในจีนเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ย. 66 โดยหลังจากมีการประกาศข้อตกลงเดินทางปลอดวีซ่าระหว่างไทยและจีน ในเดือนเม.ย. 67 YouTrip พบว่า มีปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นถึง 466% และจีนกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 2 ที่มีการเดินทางไปมากที่สุดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยเมืองยอดนิยมที่ผู้ใช้ YouTrip ชื่นชอบ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้น และเฉิงตู
"การแลกเปลี่ยนเงินตราอาจเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับจุดหมายปลายทางใหม่ๆ แต่ YouTrip ได้ร่วมกับ Alipay และ WeChat Pay ช่วยให้การเดินทางไปจีนง่ายขึ้น ขจัดความยุ่งยากเรื่องการชำระเงินในประเทศจีน เพียงนักท่องเที่ยวผูกบัตร YouTrip เข้ากับ Alipay หรือ WeChat Pay ก็สามารถสแกนจ่ายในประเทศจีนได้ทันที ไม่ต้องแลกเงินล่วงหน้าและหมดกังวลเรื่องค่าธรรมเนียม DCC (Dynamic Currency Conversion)" น.ส.จุฑาศรี กล่าว
น.ส.จุฑาศรี กล่าวถึงแนวโน้มการท่องเที่ยวต่างประเทศของนักเดินทางไทย ว่า หลังโควิด-19 ได้เกิดเทรนด์การเที่ยวล้างแค้นขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะยังคงดำเนินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง และการเดินทางท่องเที่ยวได้กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของคนไทยไปแล้ว
อย่างไรก็ดี พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เทรนด์ "ช้อปหรู กินอยู่ประหยัด" เป็นสิ่งที่พบเห็นมากขึ้น สะท้อนเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ดี แต่คนไทยยังอยากเที่ยวอยู่ และจากการเข้ามาของเทคโนโลยีทำให้เกิดความสะดวกสบายในการใช้จ่ายมากขึ้น ซึ่งจุดหมายปลายทางหลักในระยะสั้น และระยะกลางยังคงเป็นประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ได้ส่งผลให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวน้อยลง
ด้านนายภิรมย์ทิศ ทองแถม ณ อยุธยา หัวหน้ากลุ่มงานการตลาดผลิตภัณฑ์ บมจ.การบินไทย (THAI) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นไฟลต์ค่อนข้างเต็ม โดยจุดหมายปลายทางที่นิยมยังคงเป็นโตเกียว แต่เริ่มเห็นดีมานด์การเดินทางไปซัปโปโรมากขึ้น ขณะเดียวกัน คนไทยก็เดินทางไปจีนจำนวนมากขึ้นเช่นกันในช่วงสงกรานต์ โดยมียอดการจองตั๋วผ่านการบินไทยเต็ม 100% ทุกเที่ยวบิน ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากนโยบายฟรีวีซ่า
สำหรับเทรนด์การท่องเที่ยวหลังจากนี้ มองว่า เทรนด์การเดินทางด้วยตัวเองมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากเทคโนโลยีทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน และการจองที่พัก รวมถึงการใช้จ่าย ซึ่งการบินไทยมองเห็นความต้องการในจุดนี้ จึงได้พัฒนาระบบการจองตั๋วเครื่องบินออนไลน์ผ่านเว็บไซต์อย่างไร้รอยต่อมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ต้องการเดินทางด้วยตัวเอง
นายวาสิต ล่ำซำ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.เมืองไทยประกันภัย (MTI) กล่าวว่า นักท่องเที่ยวไทยหันมาให้ความสำคัญกับการซื้อประกันเดินทางมากขึ้น ซึ่งนอกจากการคุ้มครองจากประกันพื้นฐาน ยังมีการเพิ่มเรื่องของการประกันของสูญหาย การยกเลิกเที่ยวบิน หรือกรณีเที่ยวบินล่าช้า รวมถึงภัยธรรมชาติ
ในส่วนของประเทศจีน ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายการท่องเที่ยวของคนไทยที่กำลังมาแรง สะท้อนได้จากยอดการซื้อประกันภัยการเดินทางที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง เนื่องจากมองว่าตลาดหลักน่าจะเป็นญี่ปุ่นต่อไป แต่เทรนด์ไปเที่ยวจีนก็กำลังมาแรงเช่นเดียวกัน
นายวาสิต กล่าวว่า การเข้ามาของเทคโนโลยีจะช่วยตอบโจทย์เรื่องการเดินทางให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายในหลากหลายด้าน ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้คนหันมาเลือกเดินทางด้วยตัวเองมากขึ้นแทนการเที่ยวแบบกลุ่มทัวร์ เช่น Google Map ที่ช่วยให้คนเดินทางได้ง่ายขึ้น ส่วนในด้านการใช้จ่ายก็ไม่จำเป็นต้องพกเงินสด เพราะมีบริการดิจิทัลวอลเล็ตรองรับหลายสกุล นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวยังมีการคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น ทำให้เห็นความสำคัญในการซื้อประกันการเดินทางเพิ่มขึ้นตาม