นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศนโยบาย Aviation Hub เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค แต่การจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้นั้น สิ่งที่ต้องเตรียมการเป็นลำดับแรก คือ บุคลากรการบินต้องมีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานสากล นอกจากสำนักงานใหญ่ของสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ที่กรุงเทพฯ ซึ่งมีอาคารสถานที่ที่มีความพร้อมในการผลิต และพัฒนาบุคลากรการบินในหลักสูตรภาคพื้น ให้พร้อมรับการกลับมาของอุตสาหกรรมการบินแล้ว สบพ.ยังมีศูนย์ฝึกการบิน ตั้งอยู่ที่ท่าอากาศยานหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งผลิตนักบินพาณิชย์ รวมถึงบุคลากรด้านการบินหลักของประเทศและภูมิภาคมายาวนาน
รมช.คมนาคม กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าศูนย์ฝึกการบินได้ผลิตและพัฒนานักบินที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลได้อย่างพอเพียงต่อความต้องการภายในประเทศ และสอดคล้องกับความต้องการของภูมิภาค มีขีดความสามารถในการผลิต และพัฒนานักบินตามมาตรฐานสากลกำหนดได้มากกว่าปีละ 100 คน โดยให้บริการในหลักสูตรภาคอากาศครอบคลุมทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์และได้รับการรับรองเป็นสถานฝึกอบรมด้านการบิน (Approved Training Organization: ATO) จากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เช่น หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรีเครื่องบิน (Commercial pilot - Airplane Course: CPL) หลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรีเฮลิคอปเตอร์ (Commercial pilot - Helicopter Course: CPH) รวมถึงหลักสูตรนักบินส่วนบุคคล หลักสูตรครูการบิน ทั้งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น และถือเป็นแหล่งรายได้หลักของ สบพ.
อย่างไรก็ดี เมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลให้เกิดสถานการณ์นักบินตกงาน สบพ.ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ไม่มีศิษย์การบินทั้งทุนจากสายการบินและทุนส่วนตัว ด้วยขาดความเชื่อมั่นถึงโอกาสในการมีงานทำ และพบว่าอาคารสถานที่มีสภาพเก่าและทรุดโทรม ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของสถาบันฝึกอบรมที่ได้มาตรฐานสากล วันนี้สถานการณ์ด้านการบินได้คลี่คลายลงแล้ว สายการบินมีแผนการสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มขึ้นในทุก ๆปี จึงมีความต้องการนักบินเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
"ล่าสุด บมจ. การบินไทย (THAI) ได้ประการรับสมัคร Student Pilot โดยบริษัทเป็นผู้ออกทุนในการฝึกอบรมทั้งหมด และเปิดรับนักบินหญิงเป็นปีแรก ถือเป็นโอกาสที่ดีของ สบพ. และเป็นโอกาสดีของน้องๆ ที่สนใจอาชีพนักบิน จึงถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ สบพ.ต้องปรับปรุงอาคารศูนย์ฝึกการบินให้มีความพร้อมรองรับการผลิต และพัฒนานักบินที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล และผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการของสายการบิน" รมช.คมนาคม กล่าว
นางมนพร ได้ผลักดันโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกการบินหัวหิน และสิ่งก่อสร้างประกอบพร้อมครุภัณฑ์ ของ สบพ. โดยจัดสรรงบประมาณในเฟสแรก ที่จะเริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2568 ในวงเงินประมาณ 398.5 ล้านบาท เป็นอาคารเรียนและฝึกอบรมที่มีความทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งจะสอดคล้องกับผลการตรวจประเมินของ ICAO ในครั้งที่ผ่านมา ที่ได้ตั้งข้อสังเกตให้ สบพ.พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานอาคาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ในฐานะที่เป็นสถาบันที่ต้องได้รับการตรวจสอบและผ่านการประเมินตามเกณฑ์มาตรฐานที่ ICAO
ดังนั้นการก่อสร้างในเฟสแรก จึงเป็นงานก่อสร้างอาคารศูนย์ฝึกการบิน และอาคารอำนวยการ 2 หลัง และสิ่งก่อสร้างประกอบพร้อมครุภัณฑ์ รวมทั้งงานถนน และระบายน้ำ งานสาธารณูปโภค งานภูมิทัศน์ให้มีความสวยงาม สมเป็นศูนย์ฝึกการบินของประเทศไทย ให้พร้อมรับศิษย์การบินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่อไป
นอกจากนี้ ศูนย์ฝึกการบิน สบพ. เป็นสถาบันที่มีหลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรีเฮลิคอปเตอร์ (Commercial pilot - Helicopter Course: CPH) ที่ได้มาตรฐานเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นสถาบันหลักในการสร้างนักบินเฮลิคอปเตอร์ให้หน่วยงานของภาครัฐ อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพเรือ กรมแผนที่ทหาร กองทัพบก และหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ รวมถึงทุนส่วนตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ในปีนี้จึงได้จัดสรรงบประมาณประจำปี 2567 เพื่อจัดหาเฮลิคอปเตอร์ในแบบ Robinson R44 จำนวน 2 ลำ ในวงเงิน 78 ล้านบาทเศษตามที่ สบพ.ร้องขอ เพื่อสนับสนุนภารกิจของชาติด้านความมั่นคง รวมถึงสนับสนุนภารกิจของภาคเอกชน ตอบสนองการเจริญเติบโตของอุตสาหกรรมการบิน สนับสนุนนโยบาย Aviation Hub ของรัฐบาล และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทั้งด้านการบินและด้านเศรษฐกิจตามเป้าหมายของรัฐบาลต่อไป
รมช.คมนาคม ยังมอบนโยบายให้ สบพ. เตรียมความพร้อมในการพัฒนาอาคารสถานที่ในเฟสที่ 2 และเฟสที่ 3 ตามแผนการพัฒนาศูนย์ฝึกการบิน สบพ. แผนจัดหาเครื่องบิน เครื่องฝึกบินจำลอง (Flight Simulator) ให้เพียงพอ และการเตรียมครูการบิน เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมการบินในประเทศไทย และรองรับเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) ของภูมิภาคต่อไป