นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ตนได้เป็นประธานการประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจ (High Level Economic Dialogue หรือ HLED) ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ครั้งที่ 5 ร่วมกับนางมากาลี เซซานา อธิบดีกรมการค้าทวิภาคีและพัฒนาธุรกิจระหว่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม เพื่อหารือกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัน
นางสาวโชติมา กล่าวว่า ฝรั่งเศสสนใจจะขยายความร่วมมือและการลงทุนในสาขาคมนาคมขนส่ง โดยเฉพาะ การขนส่งทางรางและการขนส่งมวลชนในเมือง (urban mobility) และสาขาธุรกิจพลังงานหมุนเวียน อาทิ พลังงานทางเลือก และแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งฝรั่งเศสมีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่นำสมัย รวมทั้งสามารถสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งและเป้าหมายการมุ่งไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของไทย โดยไทยสนใจจะขยายความร่วมมือ พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับฝรั่งเศส ในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG) และการส่งเสริม Soft Power ของไทยในสาขาสำคัญ อาทิ เครื่องสำอาง น้ำหอม สิ่งทอและแฟชั่น โดยเฉพาะผ้าไหมไทย และการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ
นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ไทยและฝรั่งเศสมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดในหลายด้าน ทั้งดาวเทียมและอวกาศ การบิน ระบบราง และทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งที่ประชุมเห็นว่า สามารถกระชับความร่วมมือเหล่านี้ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยไทยได้ใช้โอกาสนี้นำเสนอนโยบายและมาตรการส่งเสริมการลงทุนของ BOI และ EEC เพื่อเชิญชวนนักลงทุนฝรั่งเศสเข้ามาลงทุนในไทย ขณะที่ฝรั่งเศสพร้อมสนับสนุนการเจรจาความตกลงทางการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) โดยเห็นว่าจะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับทั้งสองฝ่ายต่อไป ทั้งนี้ การประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยกับฝรั่งเศส จัดขึ้นครั้งแรก ในปี 2558 เพื่อเป็นเวทีหารือแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์ และขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเป็นคู่ค้าอันดับที่ 24 ของไทยในโลก และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ในกลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป โดยในปี 2566 การค้าระหว่างไทยกับฝรั่งเศส มีมูลค่า 5,280.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปฝรั่งเศส มูลค่า 1,938.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากฝรั่งเศส มูลค่า 3,341.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญอาทิ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เลนซ์ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สบู่ ผงซักฟอก และเครื่องสำอาง