'ซิตี้กรุ๊ป' เตรียมขายสินทรัพย์ 4-5 แสนล้านดอลลาร์ หลังขาดทุนหนักในตลาดซับไพรม์

          หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป อิงค์ สถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากวิกฤตซับไพรม์และภาวะสินเชื่อตึงตัวทั่วโลก เตรียมแถลงแผนการขายสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวกับธุรกิจหลัก มูลค่าประมาณ 4-5 แสนล้านดอลลาร์ 
          นายวิกรม บัณฑิต ซีอีโอซิตี้กรุ๊ปกำลังพยายามอย่างหนักที่จะลดต้นทุนและฟันฝ่าปัญหาสินทรัพย์ซึ่งได้รับผลกระทบจากการขาดสภาพคล่อง โดยเขายังคงยืนยันคำมั่นสัญญาเดิมว่าจะลดรายจ่ายประจำปีลงไปอีก 20%  ทั้งนี้ นายบัณฑิตกำลังเผชิญหน้ากับการเรียกร้องจากนักลงทุน ตั้งแต่ให้ลดต้นทุน  ขายธุรกิจที่ทำเงินไม่ได้ออกไป จนถึงแยกธนาคารออกเป็นหลายธุรกิจ เพราะนักลงทุนหลายคนมองว่าธุรกิจซิตี้กรุ๊ปใหญ่เกินไป
          ไฟแนนเชียล ไทม์ส ระบุว่า ปริมาณสินทรัพย์ที่ซิตี้กรุ๊ปจะขายครั้งนี้คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของซิตี้กรุ๊ป โดยการขยายสินทรัพย์อาจดำเนินการต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานว่า ซิตี้กรุ๊ปอาจจะขายกิจการ ไพรเมอริกา ซึ่งเป็นธุรกิจประกันชีวิตและตราสารลงทุน
          ก่อนหน้านี้ ซิตี้กรุ๊ปเปิดเผยแผนการลดขนาดธุรกิจจำนองที่มีปัญหา ด้วยการรวมแผนก ซิตี้ โฮม อีควิตี้ และ ซิตี้ เรสซิเดนเชียล เลนดิ้ง เป็น ซิตี้มอร์ทเกจ โดยหวังว่าจะช่วยให้บริษัทประหยัดเงินได้ปีละ 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
          ซิตี้กรุ๊ปซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในนิวยอร์กกล่าวว่า แผนกใหม่นี้จะมุ่งเน้นไปที่การออกเงินกู้จำนองให้แก่บริษัทที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาล อาทิ แฟนนี่ แม และ เฟรดดี้ แมค ซึ่งแผนการดังกล่าวจะทำให้สินทรัพย์การจำนองที่อยู่อาศัยของซิตี้กรุ๊ปในสหรัฐ ลดลงเป็นมูลค่าราว 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า หรือลดลง 20% จากเดือนธ.ค.2550
          ทั้งนี้ ซิตี้กรุ๊ปได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐ โดยบริษัทขาดทุนมหาศาลถึง 9.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาส 4 จนส่งผลให้นายชาร์ลส พรินซ์ อดีตซีอีโอของบริษัท ประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบ สำนักข่าวเอพีรายงาน