นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาล เข้าสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า และไหว้ศาลตายาย เพื่อเอาฤกษ์เอาชัยก่อนเริ่มทำงาน ท่ามกลางบรรยากาศฟ้าครึ้ม และฝนโปรยเล็กน้อย
นายพิชัย กล่าวว่า วันนี้ถือว่าเข้าทำงานเป็นวันแรกอย่างเป็นทางการ ทั้งในทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงการคลัง และในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการหารือกับรมช.คลัง เพื่อแบ่งงานกัน ซึ่งทุกคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีภารกิจเร่งด่วน โดยยืนยันว่าจะทำอย่างสุดความสามารถ ซึ่งจะถือว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทเป็นงานประจำ
ส่วนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจถือเป็นงานใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้านั้น นายพิชัย กล่าวว่า ทุกคนทราบปัญหาที่เกิดขึ้น แต่วิธีคิดอาจจะแตกต่างกัน และมองหาและวิธีการแก้ไขที่แตกต่างกัน ดังนั้นจำเป็นจะต้องหาข้อยุติ และเมื่อตกผลึกแล้ว ก็ต้องพยามทำให้ทุกคนเข้าใจร่วมกันให้มากที่สุด แล้วนำมาซึ่งแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
สำหรับความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในตอนนี้ นายพิชัย มองว่า เป็นเรื่องปกติ ในฐานะที่ตนมีหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่จะต้องทำงานร่วมกับ ธปท. เพื่อที่จะผลักดันให้เครื่องจักรในเครื่องจักร 2 เครื่อง ทางนโยบายการคลังและการเงินจะต้องสอดคล้องและเดินไปในทิศทางเดียวกัน แต่ก่อนจะเดินทางร่วมกันได้จะต้องมีการตกผลึก และทำความเข้าใจก่อนว่า ปัญหาที่แท้จริงคืออะไร ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องเข้าไปพูดคุยกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าฯ ธปท. ซึ่งเชื่อมั่นว่าผู้ว่าฯ ธปท. ก็ดูงานด้วยข้อเท็จจริงและมีเหตุผล โดยในอดีตตนเคยทำงานร่วมกันบ้าง ดังนั้นเชื่อว่าจะพูดคุยกันได้ และมีแนวทางที่ใกล้เคียงกัน ด้วยเหตุและผล
ส่วนกระแสข่าวที่จะมีการแก้ไขกฎหมายลดความเป็นอิสระของ ธปท. นายพิชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมาดูกันอีกครั้งว่า ใช่ปัญหาหรือไม่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีกระแสข่าวต่อต้านว่า ธปท. จะต้องมีความเป็นอิสระ ซึ่งก็เป็นความเห็นต่าง แต่หากมีการพูดคุยกันจนตกผลึกแล้ว เชื่อว่าความเห็นต่างจะค่อย ๆ แคบลง และจะนำมาซึ่งข้อสรุปที่ดี สำหรับตนแล้วมองว่า เรื่องนี้ ธปท. มีอิสระอยู่แล้วในเรื่องนโยบายการเงิน เพียงแต่ว่าความอิสระนั้นมีมาโดยตลอด สามารถที่จะกำหนดและตัดสินด้วยวิจารณญาณคนที่เข้ามาร่วมตัดสิน แต่การตัดสินนโยบายทั้งหมดนั้น จะเป็นแนวทางที่จะต้องสนับสนุนนโยบายภาครัฐ
ส่วนจะมีโครงการใหม่ ๆ มาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในช่วงนี้หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า นโยบายหลายอย่างต้องทำควบคู่กันไป โดยมีประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมมือเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ยืนยันว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดเรื่องการแก้ไข พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศ ส่วนเรื่องของการแก้ไขให้มีการนำเอาหนี้ที่อยู่ในเงินกองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงินฯ (FIDF) ไปอยู่ในบัญชีของ ธปท.นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า รัฐบาลยังไม่มีแนวคิดเรื่องนี้ อาจจะต้องหารือกันอีกทีถึงสถานการณ์ในอนาคต
"ยังไม่มีแนวนโยบายสำหรับเรื่องนี้ มีกระแสข่าวออกมาแต่เรายังไม่ได้มีการหารือกัน ส่วนความเหมาะสมก็ต้องหารือ แต่ยังไม่มีนโยบายในปัจจุบัน"นายเผ่าภูมิ กล่าว
ส่วนกรณีของเรื่องเป้าหมายเงินเฟ้อที่กำหนดไว้ที่ 1- 3% ต่อปี จะต้องมีการทบทวนหรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ในส่วนนี้ก็ต้องหารือร่วมกับ ธปท.แต่มองว่ากรอบที่ 1-3% ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือ การที่เงินเฟ้อหลุดกรอบ ไม่อยู่ในเป้าหมายเป็นระยะเวลานาน อาจจะกระทบกับเศรษฐกิจได้ในระยะยาว ก็ต้องมาคุยกันว่าทำอย่างไรให้เงินเฟ้อกลับมาอยู่ในกรอบได้