ปลัดพาณิชย์สั่งศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคาสินค้าใหม่ก่อนอนุมัติปรับราคา

          ปลัดกระทรวงพาณิชย์สั่งศึกษาและวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนสินค้าอุปโภคบริโภค 373 รายการใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมหลังผู้ประกอบการแห่เสนอขอปรับขึ้นราคา โดยบางรายการขอปรับราคาเพิ่มอีกเป็นเท่าตัว ขณะที่อธิบดีกรมการค้ายังคงยืนยันเป้าเงินเฟ้อปีนี้อยู่ที่ 5-5.5% แม้สถานการณ์ราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว พร้อมเบรกผู้ประกอบการที่ขอปรับราคาโดยอ้างต้นทุนเพิ่มขึ้นจากการปรับราคาน้ำตาลทราย
          "การศึกษาโครงสร้างต้นทุนสินค้าใหม่เพื่อให้กระทรวงพาณิชย์สามารถดูแลราคาสินค้าได้อย่างเหมาะสม จะได้รู้ว่าสินค้าตัวใด ต้นทุนมีอะไรบ้าง อะไรขึ้นอะไรลดก็จะได้รู้ เพื่อเป็นข้อยืนยันกับทางผู้ผลิต ตอนนี้พบว่าสินค้าหลายๆ รายการ ต้นทุนไม่เห็นจะเพิ่มอะไรมากก็ขึ้นราคาเกินไป เช่น ผลิตภัณฑ์รังนกที่เคยขาย 40-50 บาท ตอนนี้เป็น 100 บาท ทั้งๆ ที่ผสมรังนกเพียงเล็กน้อย และยังมีอีกหลายรายการที่มีลักษณะแบบนี้ก็จะเข้าไปดูให้หมด" นายศิริพล กล่าว
          ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หากพบว่าสินค้ารายการใดมีต้นทุนผลิตลดลงก็ต้องปรับลดราคาลงตาม หรือรายการสินค้าที่ได้รับการอนุมัติให้ปรับราคาขึ้นไปแล้ว แต่หากต้นทุนวัตถุดิบลดลงก็ต้องปรับลดราคาลงมาเช่นกัน
          ส่วนจะมีการปรับเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่หรือไม่นั้น นายศิริพล กล่าวว่า จากภาวะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ปรับประมาณการเป้าหมายเงินเฟ้อใหม่แล้วเป็น 5-5.5% จากเดิม 3-3.5% ซึ่งยังคงยืนยันเป้าหมายใหม่นี้ต่อไป โดยจะมีการติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด หากปัจจัยที่กระทบเงินเฟ้อโดยเฉพาะน้ำมันเปลี่ยนแปลงไปมากก็ต้องมาพิจารณาอีกครั้ง
          ด้าน นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จะยังไม่มีการพิจารณาให้สินค้านมข้นหวาน น้ำอัดลม และผลไม้กระป๋อง ปรับขึ้นราคาสินค้า โดยอ้างเหตุผลจากการปรับขึ้นของราคาน้ำตาลทราย 5 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นวัตถุดิบของการผลิตสินค้า เนื่องจากผลกระทบที่สินค้าดังกล่าวได้รับจากราคาน้ำตาลทรายมีต้นทุนเพิ่มขึ้นไม่ถึง 5% โดยนมข้นหวานมีต้นทุนเพิ่มขึ้น 3.92% น้ำอัดลม 2.45% และผลไม้กระป๋อง 1.85%
          รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สินค้าที่อยู่ในเป้าหมายการทบทวนโครงสร้างต้นทุน ได้แก่ น้ำมันพืช เพราะขณะนี้ต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบมีแนวโน้มราคาอ่อนตัวลงเหลือกิโลกรัมละ 32 บาทในเดือน พ.ค.51 จาก 37-38 บาทในเดือน ธ.ค.50 และคาดว่าราคาจะอ่อนตัวลงกว่านี้อีก หลังจากผลปาล์มดิบได้ทยอยออกสู่ตลาดมากขึ้น ซึ่งการอนุมัติให้ปรับราคาครั้งล่าสุดอิงต้นทุนน้ำมันปาล์มดิบที่กิโลกรัมละ 34 บาท ดังนั้นคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาน้ำมันปาล์มจะพิจารณาทบทวนราคาขายปลีกใหม่ และเรียกหารือกับผู้ประกอบการเพื่อให้ปรับลดราคาลงมา