นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงการหารือระหว่างนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ในวันนี้ไม่ได้เข้าร่วมในการหารือจึงไม่ทราบรายละเอียดเนื้อหาที่มีการหารือกัน แต่ส่วนตัว เชื่อว่าภายหลังการหารือร่วมกันในครั้งนี้ ผลที่ออกมาน่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดี นำไปสู่ข้อสรุปที่มีความชัดเจนมากขึ้น
"อาจจะยังไม่เข้าใจตรงกัน 100% แต่น่าจะเข้าใจตรงกันมากขึ้น เชื่อมั่นว่า น่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นแน่นอน" รมช.คลัง กล่าว
พร้อมระบุว่า การหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการคลัง กับธปท. ถือเป็นเรื่องปกติมาก เพราะกระทรวงฯ สนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างนโยบายการคลัง และนโยบายการเงิน ซึ่งทั้ง 2 ส่วนต้องสอดประสานกัน และถือเป็นเรื่องที่พึงกระทำอยู่เสมอ
อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน สิ่งที่ ธปท. และกระทรวงการคลังมองเห็นต่างกัน อาจจะทำให้นโยบายการเงินและนโยบายการคลังยังแตกต่างกัน เพราะมองเศรษฐกิจไม่ตรงกัน ดังนั้น เมื่อมองสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ตรงกัน อัตราการเหยียบคันเร่ง และการเหยียบเบรกจึงแตกต่างกัน สิ่งที่ดีที่สุด คือต้องมีการพูดคุยกัน เพื่อทำให้การมองภาพเศรษฐกิจตรงกัน
"ถ้าเรามองเศรษฐกิจที่ตรงกัน มันจะทำให้เรามีอัตราการเร่งของนโยบายที่ใกล้เคียงกัน และนั่นคือความสอดคล้องกันของนโยบายการเงินและนโยบายการคลัง" รมช.คลัง กล่าว
พร้อมย้ำว่า สิ่งที่กระทรวงการคลังให้ความสำคัญ คือ ต้องมองเศรษฐกิจให้ตรงกัน ดังนั้นหากได้หารือร่วมกัน ก็น่าจะเป็นประโยชน์มากขึ้น เพราะเศรษฐกิจมีตัวชี้วัดที่บ่งบอกชัดเจนว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างไร ทั้งเงินเฟ้อ อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ (GDP) ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI)
"ดัชนีเหล่านี้ ต้องหยิบมาคุยกันว่าคิดเห็นอย่างไร มันกำลังมีปัญหา หรือว่ามันกำลังดูดี ต้องหยิบมาคุยกันทีละตัว เพื่อประเมินเศรษฐกิจร่วมกัน เพื่อนำไปสู่ทางออกในการมีนโยบายการเงิน และนโยบายการคลังที่สอดคล้องกัน" นายเผ่าภูมิ กล่าว