นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ในฐานะที่ปรึกษาของคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินนอกระบบ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญปัญหาหนี้นอกระบบของรัฐบาลเป็นอันดับต้น ๆ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการไปกว่า 1 แสนราย แต่เชื่อว่ามีอีกมากที่ยังไม่เข้าสู่ระบบทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ จากนี้จะทำให้เจ้าหนี้เข้าสู่กรอบของกฎหมาย ภายใน 31 พ.ค. นี้ ถือเป็นการขีดเส้นตายครั้งสุดท้าย ยืนยันว่ารัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ เพราะต้องการดึงเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ หากใครไม่ปฏิบัติตามจะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด
"ขีดเส้นตายถึงวันที่ 31 พ.ค. ถ้าไม่มาลงทะเบียนจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ต่อให้มีนอมินีอย่างไรก็ไม่พ้น เพราะเราจะเคลียร์ทุกพื้นที่ทุกจังหวัด วันนี้รัฐบาลเดินหน้านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่แทบไม่ได้ผลเพราะเงินหายไปจากระบบ ประชาชนทำมาหากินไม่สามารถประคองชีวิตได้ เหมือนรัฐบาลโปรยฝนแต่หญ้าไม่ขึ้น เพราะมีกาลักน้ำมาขโมยไป จึงเรียกร้องให้ทุกคนต้องออกมาลงทะเบียน" นายชาดา กล่าว
หากเพิกเฉยไม่มาแจ้งระวังเจ้าหน้าที่สรรพากรจะไปตรวจสอบความเป็นอยู่และรายได้ทั้งหมด วันนี้ ไม่ใช่การแก้ไขปัญหาด้านนิติศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นการแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐศาสตร์อย่างยั่งยืน จะไม่มีการกู้หนี้มาใช้หนี้อีกต่อไป ทุกคนจะต้องเข้าสู่ระบบ
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า แม้จะมีการเปิดให้ลูกหนี้นอกระบบมาลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ยหนี้ แต่พบว่าจำนวนผู้ลงทะเบียนยังไม่ใกล้เคียงกับจำนวนลูกหนี้ตัวจริงที่คาดการณ์ไว้ จึงขอย้ำเตือนให้ลูกหนี้มาลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบ เพราะการที่เจ้าหนี้ปล่อยสินเชื่อโดยคิดดอกเบี้ยสูงเกินกว่าที่กำหนดถือว่าผิดกฎหมาย ดอกเบี้ยจะถือเป็นโมฆะ หากเข้าสู่ระบบ เจ้าหน้าที่จะช่วยไกล่เกลี่ย ในส่วนของเจ้าหนี้ก็สามารถมาลงทะเบียนเพื่อเข้าสู่ระบบแล้วรัฐจะดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อให้เจ้าหนี้ได้รับเงินคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยในอัตราที่เหมาะสม เพราะลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระเงินต้นคืนให้เจ้าหนี้ และยังสามารถดำเนินการปล่อยเงินกู้อย่างถูกกฎหมายให้กับลูกหนี้ที่ยังไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ แต่หากเจ้าหนี้ไม่มาลงทะเบียนรัฐบาลจะตีความว่าไม่ประสงค์จะได้เงินคืน ในส่วนของลูกหนี้หากไม่มาลงทะเบียน จะมาบอกว่ารัฐบาลไม่ช่วยไม่ได้
การดำเนินการในวันนี้ไม่ใช่เป็นการขยายเวลา แต่กำหนดเวลาเดิมที่มีอยู่ ต้องการให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ต้องมาลงทะเบียนให้เรียบร้อย หากไม่มาเราจะมีแผนปฏิบัติงานจริงจังเข้มข้น
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากตัวเลขสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า มีเงินหนี้นอกระบบประมาณ 50,000 ล้านบาท แต่คณะกรรมการแก้ไขหนี้สินนอกระบบมองว่าตัวเลขของหนี้นอกระบบจริงๆ น่าจะประมาณแสนล้านบาท เรื่องนี้ทางรัฐบาลให้ความสำคัญและยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.66 ถึง 29 ก.พ.67 เปิดให้ลงทะเบียนหนี้นอกระบบ มีผู้เข้าร่วมโครงการ 152,000 ราย และเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย 33,500 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ 27,500 ราย ไกล่เกลี่ยไม่สำเร็จประมาณ 6,000 ราย