ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ประเมินมูลค่าการส่งออกสินค้าไทยทั้งปี 2567 คาดว่าจะพลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้จากแรงสนับสนุนหลายด้าน ประกอบด้วย
1) เศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มขยายตัวได้ 2.7% สูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 2.6% เพิ่มขึ้นจากเศรษฐกิจจีนและสหรัฐฯ ที่เป็นคู่ค้าสำคัญของไทย โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มดีขึ้นจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ยังขยายตัวได้ดี ขณะที่เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มขยายตัวได้ดีในระยะสั้นตามวัฏจักรการผลิตและการส่งออก และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ
2) ภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าระหว่างประเทศ จะกลับมามีบทบาทขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกมากขึ้นในปีนี้ เห็นจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตโลกที่อยู่เหนือระดับ 50 มาต่อเนื่องกัน 3 เดือน
3) ราคาสินค้าส่งออกที่ดี เช่น ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามปริมาณผลผลิตในตลาดโลกที่ลดลงจากภัยแล้ง และนโยบายควบคุมการส่งออกสินค้าในบางประเทศ รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูง ตามความเสี่ยงการโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียจากยูเครน สถานการณ์ความไม่แน่นอนในตะวันออกกลาง รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มขึ้นตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
อย่างไรก็ดี แม้แนวโน้มการส่งออกปีนี้จะพลิกโตเป็นบวกจากแรงสนับสนุนจากหลายด้านก็ตาม แต่ SCB EIC ได้ปรับลดประมาณการการส่งออกไทยในปีนี้ เหลือโต 2.6% (จากเดิม 3.1%) เนื่องจากปริมาณการค้าโลกมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าคาด โดยองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ เช่น องค์การการค้าโลก (WTO) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก (World Bank) ได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของปริมาณการค้าโลกในปีนี้ลดลง จากปัญหาการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนขึ้น ส่งผลให้มีการใช้มาตรการกีดกันทางการค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศคู่ค้าสำคัญ
รวมทั้งปัญหาห่วงโซ่อุปทานจากความแห้งแล้งของคลองปานามา และการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตีบริเวณทะเลแดงที่ยังไม่สิ้นสุดลง ซึ่งเป็นเส้นทางขนส่งสำคัญของเอเชียไปยังสหรัฐฯ และยุโรป และกดดันให้ค่าขนส่งสินค้าปรับสูงขึ้นอีกครั้ง หลังสายการเดินเรือต่าง ๆ กลับมาหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านเส้นทางทะเลแดง (คลองสุเอซ) และใช้เส้นทางการเดินเรือผ่านแหลมกู๊ดโฮป ประเทศแอฟริกาใต้ ที่มีต้นทุนและระยะเวลาขนส่งสูงขึ้นแทน
นอกจากปริมาณการค้าโลก จะมีแนวโน้มขยายตัวได้ต่ำกว่าคาดแล้ว SCB EIC ยังพบว่าการส่งออกไทยในช่วงที่ผ่านมา ฟื้นตัวสอดคล้องกับปริมาณการค้าโลกได้น้อยลงเรื่อย ๆ สะท้อนจากอัตราส่วนของการขยายตัวของมูลค่าส่งออกไทย เทียบการขยายตัวของปริมาณการค้าโลกที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการส่งออกในกลุ่มสินค้าแผงวงจรไฟฟ้า เครื่องจักรกล และรถยนต์และส่วนประกอบ ซึ่งมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ในระดับที่ติดลบ ชี้ให้เห็นว่าในขณะที่ปริมาณการค้าโลกฟื้นตัวมากขึ้น การส่งออกในกลุ่มสินค้าดังกล่าวกลับหดตัวลง
"ประมาณการมูลค่าส่งออกของไทยทั้งปีที่ 2.6% เติบโตได้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2.8%) ซึ่งจะมีส่วนช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้เพิ่มขึ้นในปีนี้ จากที่หดตัวเล็กน้อยในปี 2566" บทวิเคราะห์จาก SCB EIC ระบุ
ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ รายงานมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในเดือน เม.ย. อยู่ที่ 23,278.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พลิกกลับมาขยายตัวที่ 6.8% หลังจากที่หดตัว -10.9% ในเดือนมี.ค. สะท้อนให้เห็นสัญญาณการฟื้นตัวของการส่งออกไทยที่ดีขึ้นมากในระยะสั้น ขณะที่ภาพรวมการส่งออกไทยช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.67) มีมูลค่า 94,273.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 1.4%
SCB EIC ประเมินว่า มูลค่าการส่งออกไทยในเดือน พ.ค. และไตรมาสที่ 2 จะยังมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากเดือน เม.ย. สอดคล้องกับข้อมูลในการแถลงของกระทรวงพาณิชย์ ที่คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะขยายตัวได้ในเดือน พ.ค. และขยายตัวอย่างน้อย 1% ในไตรมาสที่ 2