นายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. ที่มีนายจิรุตม์ วิศาลจิตร เป็นประธานที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาการปรับกรอบวงเงินโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน (Missing Link) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสีแดงเข้ม ช่วง บางซื่อ-หัวลำโพง ระยะทาง 25.9 กม. ขึ้นอีกประมาณ 400 ล้านบาท จากการปรับแบบสถานีราชวิถี และย้ายตำแหน่งสถานีใหม่ เพื่อให้ผู้โดยสารเดินเชื่อมเข้าสู่อาคารโรงพยาบาลรามาธิบดีได้สะดวก แต่บอร์ดยังไม่อนุมัติ โดยให้กลับไปทบทวนรายละเอียดและกลับมาเสนอบอร์ดอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในเดือน มิ.ย. 67
โดยบอร์ด รฟท.มีข้อสังเกตุ เช่น กรณีการขยับตำแน่งสถานีราชวิถี มีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร มีใครได้ประโยชน์บ้าง มีใครได้รับผลกระทบบ้าง รวมไปถึงผลกระทบต่อโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ที่มีเส้นทางในแนวเดียวกันบางช่วง ต้องมีการประสานเพื่อยืนยันให้เรียบร้อยตรงกัน เพราะพื้นที่บริเวณดังกล่าวมีจำกัด
ส่วนประเด็นที่เส้นทางสายสีแดงอ่อนมีการทับซ้อนกับไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบินในบางช่วง นั้น ทางบริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีพี ผู้รับสัมปทานไฮสปีดเชื่อม 3 สนามบิน มีกังวลเรื่องดังกล่าวหรือไม่ โดยเฉพาะกรณีเกิดการแย่งผู้โดยสารกัน นายอนันต์ กล่าวว่า รถไฟสายสีแดงเป็นคนละระบบกับไฮสปีด และโครงการไฮสปีด 3 สนามบิน มีสถานีจอดที่สถานีพญาไท จากนั้นวิ่งยาวไปสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ไม่มีจุดจอดที่ สถานีราชวิถีจึงไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันในเรื่องการแย่งผู้โดยสาร แค่เป็นเส้นทางที่ขนานกันเท่านั้น
ทั้งนี้ ในส่วนของ รฟท. ยังคงเดินหน้าโครงการรถไฟสายสีแดงอ่อน (Missing Link) ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก ตามแผนแม่บทเพื่อเกิดการเชื่อมต่อการเดินทาง เป็นเส้นทางหลักในแนวเหนือ-ใต้ และออก-ตก ทอดไปตามแนวทางรถไฟเดิม เข้าสู่ใจกลางเมือง
สำหรับรถไฟชานเมืองสายสีแดงเส้นทาง ช่วงบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และช่วงบางซื่อ-หัวลำโพง (Missing Link) มีระยะทาง 25.9 กม. มี 9 สถานี จากมติ ครม.เดิมเมื่อปี 59 มีวงเงิน 44,157.76 ล้านบาท และมีการปรับวงเงินเพิ่มอีกประมาณ 400 ล้านบาท เนื่องจากมีขอบเขตงานเพิ่มจากการปรับแบบสถานีราชวิถี และย้ายตำแหน่งสถานี