นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรกที่ขยายตัว 1.5% ถือว่าดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 0.8% และมากกว่าที่ ธปท.ประเมินไว้อยู่ที่ 1% ดังนั้น ถือว่าเป็นจุดตั้งต้นที่ดีกว่าที่เราคาด ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 ยังต้องดูพัฒนาการเศรษฐกิจต่อไป แต่เชื่อว่าไตรมาส 2 จะเป็นจุดเปลี่ยน (Turning Point) เพราะตัวเลขหลายๆ ตัวเริ่มกลับมาเป็นบวก แต่ก็ต้องติดตามว่าตัวเลขเหล่านี้ จะยั่งยืนมากน้อยเพียงใด
"แนวโน้มไตรมาส 2 ประเมินว่าจะดีกว่าหากเทียบกับ YOY ตามที่กนง.แถลงไว้ในครั้งที่แล้ว" นายสักกะภพ กล่าว
ส่วนเรื่องเงินเฟ้อนั้น ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อจะสามารถกลับมาเป็นบวกได้ตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป แต่ล่าสุด การรายงานอัตราเงินเฟ้อของกระทรวงพาณิชย์ ในเดือนเม.ย.67 พบว่าขยายตัวได้ 0.19% เร็วกว่าที่ กนง.ประเมินไว้ หลังจากที่เงินเฟ้อติดลบต่อเนื่องมานานถึง 6 เดือน
อย่างไรก็ดี เงินเฟ้อปัจจุบันที่ยังอยู่ในกรอบล่างนั้น ส่วนหนึ่งมาจากด้านอุปทาน ทั้งเรื่องของราคาพลังงานที่ภาครัฐมีมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ประกอบกับสินค้ากลุ่มอาหารสด เช่น เนื้อสุกรราคาลดลง ดังนั้นเงินเฟ้อที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา มาจากเหตุผลทางฝั่งอุปทานค่อนข้างมาก
ทั้งนี้ สิ่งที่ ธปท. ติดตามอยู่คือ ราคาสินค้าในตระกร้า 300-400 รายการ มีการปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงมากน้อยเพียงใด ซึ่งพบว่าสินค้าโดยรวมยังใกล้เคียงเดิม สะท้อนว่าในแง่ของดีมานด์หรือกำลังซื้อไม่ได้แย่ลง และอีกด้านที่เห็นคือ เงินเฟ้อคาดการณ์ของเอกชน ทั้งจากผู้ผลิต ที่ยังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับกรอบเป้าหมายของธปท. ดังนั้น เมื่อมองไปข้างหน้าก็ยังเห็นสอดคล้องกันว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะค่อยทยอยปรับสูงขึ้น
"ถามว่ากังวลหรือไม่ หากตอบว่าไม่กังวล อาจไม่ใช่ แต่ ธปท.ก็มีการจับตาใกล้ชิด ซึ่งปัจจุบันเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบที่ ธปท.ประเมินไว้" นายสักกะภพ กล่าว
โดยทั้งปี 2567 กนง. คาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะอยู่ที่ระดับ 0.6% ซึ่งช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ธปท. และกระทรวงการคลัง จะหารือกันเพื่อร่วมกำหนดกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน (กรอบเงินเฟ้อ) สำหรับปี 2568 ต่อไป จากปัจจุบันที่กรอบเงินเฟ้ออยู่ที่ 1-3%
สำหรับการส่งออกของไทยนั้น แม้ตัวเลขการส่งออกในเดือนเม.ย. จะกลับมาเป็นบวก จากเดือนมี.ค.ที่หดตัวประมาณ 10% แต่หลายสำนักมีการปรับลดตัวเลขส่งออกทั้งปีนี้ลง ซึ่งมุมมองในภาพใหญ่ของ ธปท. ก็ไม่ได้มองว่าการส่งออกปีนี้จะขยายตัวได้สูงอยู่แล้ว โดยคาดว่าทั้งปี การส่งออกของไทยจะขยายตัวได้ราว 2% ถือว่าเป็นระดับกลางถึงต่ำ
"ภาพใหญ่ของการส่งออก ธปท. ไม่ได้มองว่าดีอยู่แล้ว ไม่ได้มองสูง ดังนั้นไม่ได้เซอร์ไพรส์กว่าที่คาด ส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานด้วย และปัจจัยเรื่องโครงสร้างที่ฉุดรั้งบางอุตสาตสาหกรรม...ประมาณการส่งออกของ กนง.อยู่ที่ราว 2% ถือว่าเป็นระดับที่ค่อนไปทางกลางๆ หรือต่ำ หากเทียบกับตลาด" นายสักกะภพ ระบุ