นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ชี้แจงกรณีมีข่าวว่ารัฐบาลจะแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ให้กับกลุ่มเปราะบางก่อนเป็นลำดับแรก ภายใน 30 ก.ย.67 ว่า ยังคงยืนยันตามที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ ว่าจะมีการลงทะเบียนประชาชน และเริ่มลงทะเบียนร้านค้าในไตรมาสที่ 3 ส่วนการจ่ายเงินนั้น จะจ่ายงวดเดียวทั้งก้อน โดยทุกคนจะได้เงิน 10,000 บาท และได้รับพร้อมกันทั้ง 50 ล้านคน ซึ่งยังคงเป็นแนวทางนี้
"อาจจะมีการเข้าใจกันคลาดเคลื่อน จึงขอชี้แจงในวันนี้ และยืนยันว่าจะมีการจ่ายเงินได้ภายในไตรมาส 4 และยืนยันว่าจะไม่มีการพิจารณาให้กลุ่มไหนก่อน เพราะคณะกรรมการดิจิทัล ก็ไม่เคยการพิจารณาจะให้กลุ่มไหนตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทุกคนควรจะได้พร้อมกัน ในระยะเวลาเดียวกัน และในจำนวนเงินที่เท่ากัน เพื่อที่การกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะมีเม็ดเงินจำนวนมากลงไปในระบบพร้อม ๆ กัน" รมช.คลัง กล่าว
นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า สำหรับแหล่งเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้มีการเปิดเผยอย่างชัดเจนแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่ง จะมาจากงบกลางปีเพิ่มเติมปีงบประมาณ 2567 วงเงิน 112,000 ล้านบาท และวงเงินจากการขยายการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น รวมถึงวงเงินตามมาตรา 28 จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
รมช.คลัง ยังกล่าวถึงการพัฒนา Super App ว่า ขณะนี้ยังเป็นไปตามไทม์ไลน์เดิม โดยยืนยันว่า จะเริ่มเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนได้ในไตรมาส 3 และกระจายเงินลงสู่มือประชาชนได้ในไตรมาส 4 ปีนี้
ขณะที่ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวว่า คงเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน เพราะรัฐบาลไม่ได้มีการพูดถึงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตให้กลุ่มเปราะบางก่อน แต่คาดว่าอาจจะเป็นประเด็นเกี่ยวกับการเปิดให้กลุ่มเปราะบางได้ทยอยลงทะเบียน และยืนยันตัวตน (KYC) ก่อนเท่านั้น เพราะจะมีประชาชนที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการมากถึง 50 ล้านคน ส่วนกระบวนการทั้งหมดของโครงการยังคงเป็นไปตามกำหนดเดิม
"ที่มีการพูดถึงกันนั้น คาดว่า น่าจะเป็นเรื่องการเปิดให้กลุ่มเปราะบางได้ลงทะเบียน และทำ KYC ก่อน เพื่อจะได้รู้ว่ามีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้หรือไม่ เช่น อายุ 16 ปี จำนวนเงินฝากรวมทั้งหมดในบัญชีเป็นไปตามเกณฑ์หรือไม่ แต่ทั้งหมดยึดหลักบัตรประชาชน ซึ่งเป็นขั้นตอนการทำงาน เพื่อกระจายการลงทะเบียนต้องเริ่มแล้ว เนื่องจากคนมีจำนวนมาก และมีหลายกลุ่ม เช่น คนทั่วไป และเกษตรกร" นายพิชัย กล่าว
ด้านนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า เรื่องการแจกเงินดิจิทัลให้กลุ่มเปราะบางก่อนนั้น ไม่ได้มีการพูดคุยในที่ประชุม ครม.แต่อย่างใด โดยทุกอย่างยังเป็นไปตามแผนเดิม คือ จะเปิดให้ลงทะเบียน และประชาชนจะได้รับเงินพร้อมกันทุกกลุ่มในไตรมาสสุดท้าย
"เรื่องนี้ คาดว่าน่าจะเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน และขอให้ประชาชนติดตามข่าวนี้ จากกระทรวงการคลังเท่านั้น" รมช.คลัง ระบุ