นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงการประมูลข้าว 10 ปี ในสต็อกของรัฐบาลว่า เร็วๆ นี้ คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลได้ เพราะข้าวในสต็อกดังกล่าวได้ผ่านการตรวจสอบคุณภาพ จากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว ยืนยันว่าเป็นข้าวที่สามารถรับประทานได้ และข้าวไทยยังเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ เชื่อว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาประมูล
"เรามีมาตรการรองรับตามกฎ และดุลยพินิจของคณะกรรมการ มั่นใจไม่กระทบต่อราคาข้าวในตลาด ปัจจุบันราคาข้าวในตลาดขึ้นอยู่กับ demand และ supply และข้าวไทยยังเป็นข้าวที่มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของต่างประเทศ และข้าวที่จะประมูลครั้งนี้ มีเพียง 15,000 ตัน ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปริมาณข้าวไทยที่ส่งออกทั้งหมด" รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าว
โดยก่อนหน้านี้ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ออกประกาศ หลักเกณฑ์การจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐบาลเป็นการทั่วไป โดยระบายแบบเหมาคลัง ตามสภาพของข้าวที่เก็บรักษาที่มีอยู่จริง รวม 15,013 ตัน ประกอบด้วย
- ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปีการผลิต 2556/57 จากคลังของ บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด จ.สุรินทร์ จำนวน 3,356 ตัน
- ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 2 ปีการผลิต 2556/57 จากคลังของ บริษัท กิตติชัย จำกัด จ.สุรินทร์ จำนวน 11,656 ตัน
กำหนดให้ผู้สนใจเข้าประมูล ยื่นซองเอกสารคุณสมบัติ วันที่ 10 มิ.ย.67 และยื่นซองเสนอซื้อในวันที่ 17 มิ.ย.67 โดยจะทำการเปิดซองเสนอซื้อในวันเดียวกัน (17 มิ.ย.)
นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงสถานการณ์ราคาปาล์มน้ำมันด้วยว่า ปัญหาส่วนหนึ่งยอมรับว่ามาจากภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตน้อยลง จาก 17-18% ลงมาเหลือประมาณ 13-15% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้วางมาตรการในการแก้ปัญหาไว้แล้ว ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ได้กำหนดราคากลางหน้าโรงงานไว้ ซึ่งขณะนี้ราคารับซื้อผลปาล์ม ขยับขึ้นไปเฉลี่ยที่ 4.70 บาท/กก.
"กรมการค้าภายใน ได้ติดตาม และสั่งการให้รายงานราคาปาล์มหน้าลาน เพื่อตรวจสอบราคาซื้อ-ขายเป็นรายวัน รวมทั้งขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย ในการช่วยกันแก้ไขปัญหาราคาและเพิ่มผลผลิตระยะยาว โดยเชื่อว่าผลผลิตจะดีขึ้น และส่งผลให้ปัญหาราคาปาล์มน้ำมันคลี่คลายลงได้" รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ กล่าว