นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 11 (PGS 11) วงเงิน 50,000 ล้านบาท โดยให้ธนาคารพาณิชย์ ปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่รัฐบาลสนับสนุน และผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ที่ยังไม่เคยได้รับสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินเป็นลำดับแรก โดยผ่านกลไกการค้ำประกันของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)
ทั้งนี้ จะเป็นการปล่อยสินเชื่อให้ SMEs รายละไม่เกิน 40 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้นาน 10 ปี โดยสามารถยื่นคำขอได้ตั้งแต่วันนี้ - 30 ธ.ค.68 ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันเฉลี่ย 1.75% ต่อปีตลอดสัญญา โดยคาดว่าจะสามารถปล่อยกู้ให้กับ SMEs ได้ราว 76,900 ราย และก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 60,000 ล้านบาท
"บสย.จะรับผิดชอบไม่เกิน 30% ของ 50,000 ล้านบาท คือ 15,000 ล้านบาท ซึ่งใน 15,000 ล้านบาทนี้ บสย.จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลเข้ามาช่วย 7,125 ล้านบาท และเป็นเงินจากที่เก็บค่าธรรมเนียมของผู้กู้อีก 7,875 ล้านบาท" นายชัยระบุ
ส่วนโครงการสินเชื่อนี้ จะขยายสิทธิการเข้าร่วมให้กับวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และ Micro SME (MSME) ด้วยหรือไม่นั้น ต้องขึ้นกับดุลยพินิจของธนาคารพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้ ซึ่งหากธนาคารพาณิชย์ยินยอม รัฐบาลก็ไม่ขัดข้องที่จะค้ำประกันสินเชื่อให้
"คนปล่อยกู้ไม่ใช่ธนาคารของรัฐ แต่เป็นธนาคารพาณิชย์ ดังนั้น ดุลยพินิจต้องให้ธนาคารพาณิชย์เป็นผู้ตัดสินใจ และหากธนาคารพาณิชย์จะให้สิทธิกับวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลด้วย รัฐบาลก็ไม่ขัดข้องที่จะค้ำประกันสินเชื่อให้" นายชัย กล่าว
อย่างไรก็ดี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เห็นว่าหากโครงการดังกล่าวประสบผลสำเร็จดี ก็ขอให้พิจารณาขยายวงเงินเพิ่มเติมต่อไป