นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประชุมวงเล็กต่อเนื่องจากการประชุม ครม.เศรษฐกิจ เมื่อวานนี้ (10 มิ.ย.) ในประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ
"ที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ ผู้ค้ารายใหญ่ตามมาตรา 7 ไม่ได้ซื้อ B100 ที่ราคา 30 บาท แต่ไปซื้อที่ราคา 27 บาท ดังนั้น เมื่อวานนี้ที่ประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจ นายกฯ ได้มอบให้ปลัดกระทรวงพลังงานซึ่งมาประชุมแทนรัฐมนตรี ได้ไปเจรจากับผู้ค้ารายใหญ่ พอเจรจาเสร็จเมื่อเช้านี้ได้ข้อสรุปว่า ผู้ค้ารายใหญ่ เช่น บมจ.ปตท. (PTT) และบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ยอมรับปากแล้วว่าจะซื้อราคาที่ประกาศ 30 บาท" นายชัย กล่าว
การกำหนดราคานำร่อง B100 ดังกล่าวเพื่อให้ผู้ประกอบการในห่วงโซ่การผลิตทั้งหมดสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นธรรม เริ่มตั้งแต่เกษตรกรชาวสวนปาล์มที่เป็นต้นน้ำ, พ่อค้าคนกลางหรือเจ้าของลานเท, โรงสกัดน้ำมัน (CPO), โรงกลั่น B100 และโรงงานผลิตไบโอดีเซล โดยกระทรวงพลังงานจะดูแลให้มีการรับซื้อ B100 ในราคาดังกล่าว ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์จะดูแลพ่อค้าคนกลางและโรงสกัดน้ำมันให้รับซื้อผลปาล์มสดในราคาที่กำหนด โดยจะมีการขึ้นทะเบียน
"หากประกาศ B100 ที่ราคา 30 บาท ราคาผลปาล์มสดที่เกษตรกรขายได้จะดีพอสมควรที่ 4.70-4.90 บาท/กิโลกรัม โดยเมื่อวานนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงพลังงานไปเจรจากับผู้ค้ารายใหญ่ เช่น ปตท. บางจาก รับปากแล้วว่าจะรับซื้อที่ 30 บาท" นายชัย กล่าว