นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับภาคเอกชน ทั้งสมาคมท่องเที่ยว สมาคมโรงแรม ร้านอาหาร ผู้ประกอบการนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ รวมถึงการประชุมร่วมกับ 55 ผู้ว่าราชการจังหวัด ในการร่วมกันเร่งเพิ่มศักยภาพ 55 เมืองน่าเที่ยว ขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND จุดพลังการท่องเที่ยวไทย ด้วยการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเมืองหลักไปสู่เมืองรอง หรือ เมืองน่าเที่ยว เพื่อเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 67
นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งผลักดันประเทศไทยสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก ด้วยนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND โดยมีกลยุทธ์เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว เป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเมืองหลักสู่เมืองรอง ซึ่งจะมีการปรับภาพลักษณ์ ยกระดับจากเมืองรองเป็นเมืองน่าเที่ยว ให้เกิดการกระจายนักท่องเที่ยวไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ นำไปสู่การขยายวันพักและเพิ่มค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว ส่งผลให้เกิดการสร้างรายได้ไปยังประชาชน และชุมชนท้องถิ่นทั่วประเทศไทย
โดยในการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในวันนี้ รัฐบาลด้วยความร่วมมือจากทั้งภาคเอกชนและในส่วนพื้นที่ 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว จะเพิ่มศักยภาพจังหวัดท่องเที่ยวทั้ง 55 เมืองน่าเที่ยว ด้วยการเร่งพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน ระบบขนส่งมวลชน ยกระดับมาตรฐานที่พัก ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง
นอกจากนี้ จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มทางเลือกและความหลากหลายให้แก่นักท่องเที่ยว สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่นด้วยการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี การสนับสนุนทางการเงิน การฝึกอบรมและพัฒนาทักษะบุคลากร เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการ ปรับปรุงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยว และส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม และการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความยั่งยืนในทุกมิติ
โดยจะส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยวอย่างเข้มข้น ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการใช้สื่อดิจิทัล และสื่อสังคมออนไลน์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ รัฐบาลจะเร่งผลักดันบางจังหวัดของประเทศไทย ให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เพื่อผลักดันการท่องเที่ยวและสร้างชื่อเสียงในระดับสากลต่อไป
ทั้งนี้ การประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับภาคเอกชน ในการเพิ่มศักยภาพจังหวัดท่องเที่ยว 55 จังหวัดเมืองน่าเที่ยว ยังมีข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน ที่ต้องการรับการสนับสนุนจากรัฐบาลในหลายประเด็น อาทิ
- การสนับสนุนเงินทุน หรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ธุรกิจ SMEs
- การปรับปรุงกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจโรงแรมให้ทันสมัย และเอื้อต่อการดำเนินงาน
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการบิน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับนักท่องเที่ยว
- การจัดทำข้อตกลงด้านการบินที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของสายการบินไทย รวมถึงการลดภาษีและค่าธรรมเนียมสนามบิน เพื่อลดต้นทุนการดำเนินงาน
- การสนับสนุนการฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และชุมชนท้องถิ่น
- การปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัย และสุขอนามัย
- การสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี รัฐบาลยินดีที่จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชนสามารถทำงานและส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และเร่งผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้บรรลุเป้าหมาย ทั้งทางด้านจำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้ทางการท่องเที่ยวตามที่ตั้งไว้ ตลอดจนพัฒนาสู่การเป็น Tourism Hub ที่มีความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกต่อไป
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้มอบหมายให้กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งทำแผนโปรโมตการท่องเที่ยว ทั้งเมืองหลัก และเมืองน่าเที่ยว โดยให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ กำหนด KPI ว่าแต่ละจังหวัด จะมีแผนส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างไร โดยให้นำกลับมาเสนอภายใน 2 สัปดาห์