นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม สั่งเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วม ให้มีผลบังคับใช้ภายในปี 68 พร้อมขับเคลื่อนนโยบายค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย กระตุ้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน คลี่คลายปัญหาจราจรได้อย่างยั่งยืน
นายสุริยะ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (คนต.) ครั้งที่ 1/2567 ได้รับทราบผลการดำเนินงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมที่ผ่านมา และผลการศึกษาโครงการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนแผนดังกล่าวให้ไปสู่การปฏิบัติ รวมถึงผลักดันร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. .... ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็ว โดยให้ สนข. เร่งรัดการเสนอร่าง พ.ร.บ. ตั๋วร่วม ฯ เพื่อกระทรวงคมนาคมพิจารณานำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้มีผลใช้บังคับภายในปี 68
พร้อมทั้งให้มีการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมระบบตั๋วร่วมเพื่อสนับสนุนการดำเนินงาน การพัฒนาและการส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม รวมถึงการส่งเสริมและอุดหนุนประชาชนผู้ใช้บริการระบบตั๋วร่วมให้สามารถใช้ระบบขนส่งด้วยความสะดวก โดยมีต้นทุนการเดินทางที่สมเหตุสมผล ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางของประชาชนได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนลดข้อจำกัดจากสัญญาสัมปทานเดิม ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ สนข. กรมการขนส่งทางราง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย การรถไฟแห่งประเทศไทยและกรุงเทพมหานคร ดำเนินการออกประกาศที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจาก พ.ร.บ. ตั๋วร่วม ฯ มีผลใช้บังคับแล้ว เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ในระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ตามนโยบายของรัฐบาลให้เป็นรูปธรรม
"กระทรวงคมนาคมมั่นใจว่าการเร่งผลักดันร่าง พ.ร.บ. การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมฯ ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วนั้น จะสามารถสนับสนุนการดำเนินงานการพัฒนาและส่งเสริมเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาลให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมภายในเดือนมีนาคม 2569 ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถใช้ระบบขนส่งมวลชนด้วยความสะดวก มีต้นทุนการเดินทางที่สมเหตุสมผล ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างยั่งยืน เพื่อความอุดมสุขของประชาชนอย่างแท้จริง" นายสุริยะ กล่าว