นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการ เติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ในประเด็นที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ เรื่องสินค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ (Negative List) นั้น ขณะนี้ได้ข้อสรุปที่ค่อนข้างชัดเจนแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของสมาร์ทโฟน ซึ่งพิจารณาแล้วว่าสามารถเข้าร่วมโครงการได้
"ส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ได้พิจารณาในทุกแง่มุม เพราะปัจจุบันโทรศัพท์มือถือ คือเครื่องมือในการทำมาหากิน เรียกว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ไปแล้ว จึงเห็นว่ามีความเหมาะสม ที่จะสามารถเข้าร่วมในโครงการได้" นายจุลพันธ์ กล่าว
โดยช่วงต้นสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินโครงการฯ เพื่อติดตามความคืบหน้ารายละเอียดของแต่ละส่วนงานที่ได้มีการมอบหมายไว้ โดยยืนยันว่าโครงการยังเป็นไปตามกำหนดเวลาเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง คือ ภายในไตรมาส 3/67 จะเปิดให้ประชาชนและร้านค้าเข้ามาลงทะเบียน และภายในไตรมาส 4/67 เงินจะถึงมือประชาชนอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ดี สำหรับประเด็นการสอบถามความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา กรณีการใช้เงินธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1.72 แสนล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการ Digital Wallet นั้น ยังไม่ได้มีการดำเนินการ โดยทุกอย่างจะทำตามขั้นตอนเมื่อถึงเวลาอย่างแน่นอน ซึ่งขณะนี้ ยังมีระยะเวลาดำเนินการอีกนาน
"ตอนนี้กระบวนการต่าง ๆ ค่อนข้างนิ่งแล้ว เป็นไปตาม step แผนงานมีกำหนดเวลาที่จะต้องดำเนินการตามขั้นตอน ตามเทคนิคต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ส่วนโครงสร้างของมาตรการนิ่งแล้ว ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ตอนนี้สิ่งที่ทำ คือ ต้องกระชับ อะไรที่ทำคู่ขนานได้ก็ทำ อะไรที่ร่นระยะเวลาได้ก็ร่น เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินการได้เร็วขึ้น แต่กรอบเวลาตอนนี้ ดูแล้วน่าจะช่วงปลายปีตามแผนงาน" นายจุลพันธ์ กล่าว