ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.79 แกว่งแคบ จับตาคดีสำคัญทางการเมืองสัปดาห์หน้า คาดกรอบ 36.60-36.85

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 14, 2024 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.79 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.67/68 บาท/ดอลลาร์

ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.70-36.80 บาท/ดอลลาร์ วันนี้เงินบาทยังแกว่งในกรอบแคบ ตลาดยังคงย่อย ข่าวเดิม ๆ ใน เรื่องทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับลดดอกเบี้ยลงเพียง 1 ครั้ง ภายในปีนี้

ขณะที่สัปดาห์หน้า ต้องจับตาการเมืองในประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อตลาดการเงิน เนื่องจากมีหลายคดีที่จะมีการ พิจารณา โดยเฉพาะคดีที่ 40 สว. ยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี หลังจากเสนอแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นคดีสำคัญที่ตลาดรอดู

"สัปดาห์หน้า ที่ต้องจับตา คงเป็นปัจจัยการเมืองในประเทศ เพราะมีหลายคดีที่สำคัญ แต่ที่น่าจะมีผลต่อตลาดจริง ๆ คือ คดี ของนายกฯ เศรษฐา เพราะจะมีผลต่อเนื่องถึงนโยบายและมาตรการเศรษฐกิจ ส่วนคดีพรรคก้าวไกล และคดีของนายทักษิณ อาจจะไม่ค่อย ส่งผลกับตลาดมากนัก" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า ต้นสัปดาห์หน้า เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 36.60 - 36.85 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.09 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 157.28/31 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0687 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0738/0742 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,306.56 จุด ลดลง 5.22 จุด (-0.40%) มูลค่าซื้อขายราว 38,680.28 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 724.59 ล้านบาท
  • นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกระแสข่าวจะลาออกจากตำแหน่ง รวมทั้งกระแสข่าวยุบสภา เพื่อชิงหนีคดีที่ถูก 40 สว. ร้องให้ถอด
ถอนออกจากตำแหน่ง กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมระบุว่า ทีมกฎหมายได้ส่งรายชื่อพยานเพิ่ม
เติมให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว แต่ไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพราะจะเป็นการก้าวล่วงอำนาจศาล
  • รมช.คลัง กล่าวว่า ขณะนี้ รัฐบาลยังไม่ได้มีการพิจารณาถึงความจำเป็นที่จะต้องนำ "กองทุนพยุงหุ้น" กลับมาใช้ หลังจาก
ดัชนีตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ยังไม่แน่นอน
  • กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอที่ประชุมคณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีการประชุมในอีก 2 สัปดาห์หน้า พิจารณาเกี่ยว
กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพิ่มเติม
  • ประธานบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนการลงทุนและความร่วมมือในประเทศไทย
ระยะเวลา 3 ปี (2567-2569) มูลค่า 6,200 ล้านบาท และยืนยันขยายกิจการสนับสนุนความก้าวหน้าด้านสุขภาพในไทย
  • ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0-0.1% ในการประชุมวันนี้ (14 มิ.ย.) แต่ได้ตัดสินใจ
ปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น โดย BOJ จะเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการลดการซื้อพันธบัตรในการประชุมเดือนก.ค. ซึ่งก่อน
ที่จะถึงเวลานั้น BOJ จะเดินหน้าซื้อพันธบัตรในระดับปัจจุบัน ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 6 ล้านล้านเยน (3.81 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน

BOJ กำลังจับตาผลกระทบของการอ่อนค่าของเงินเยนที่มีต่อเงินเฟ้อ โดย BOJ จะดำเนินการอย่างเหมาะสมเพื่อตอบสนอง ความเคลื่อนไหวของเงินเยน และระบุว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2%

  • S&P Global Ratings สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากสหรัฐ เปิดเผยว่า จีนจำเป็นต้องปฏิรูปตลาด
ตราสารหนี้ เนื่องจากหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น สร้างความเสี่ยงในระยะยาวที่สำคัญต่อประเทศ พร้อมระบุว่า แม้รัฐบาลจีนจะดำเนินมาตรการ
กระตุ้นด้านการคลังต่อเนื่อง แต่ระดับหนี้ก็ยังคงสูงมาก ในขณะที่ GDP ชะลอตัวลง
  • ผู้ซื้อทองคำรายย่อยในเอเชีย ยังคงต้องการเข้าซื้อทองคำมากขึ้น แม้ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม เนื่องจากความไม่แน่

นอนทางภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจมหภาคเป็นแรงผลักดันแรงซื้อทองคำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ