นายณรงค์ อรุณภาคมงคล ผู้อำนวยการกองส่งเสริมกิจการท่าอากาศยาน เป็นผู้แทนจากกรมท่าอากาศยาน พร้อมเจ้าหน้าที่กลุ่มจัดสรรเวลาท่าอากาศยาน เข้าร่วมการประชุมการจัดสรรเวลาของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ครั้งที่ 154 (154 nd IATA Slot Conference) (27 ตุลาคม 2567 ? 29 มีนาคม 2568) ณ กรุงโบโกตา สาธารณรัฐโคลอมเบีย ระหว่างวันที่ 11 - 13 มิถุนายน 2567 เพื่อจัดสรรเวลาเที่ยวบินในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว 2567/2568 โดยครั้งนี้ 9 สายการบิน ขอจัดสรรเวลาหรือขอปรับเปลี่ยนเวลาเข้า/ออก ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ ให้สอดคล้องกับการจัด Network และ Rotation ตามแผนของสายการบิน และสอบถามข้อมูลศักยภาพการพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของท่าอากาศยาน ภายหลังจากการประชุมคณะผู้แทนจากกรมท่าอากาศยาน สามารถจัดสรรได้ตามเวลาที่สายการบินต้องการหรือเวลาที่ยอมรับได้ รวมทั้งนำเสนอข้อมูลแผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ที่จะดำเนินการในปี 2567 ให้สายการบินทราบความคืบหน้าในการพัฒนาขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น โดยข้อมูลการจัดสรรเวลาที่เสร็จสิ้นแล้วนั้น ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่สามารถนำไปใช้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับเที่ยวบินที่จะทำการบินมาในกำหนดการบินประจำฤดูหนาว 2567/2568 ทั้งในส่วนของความพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้โดยสารและสายการบิน ด้านบุคลากร และหน่วยงานเกี่ยวข้องภายในท่าอากาศยาน เพื่อให้การรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพรวม
โดยในการเข้าร่วมประชุมมีสายการบินขอเข้ารับการจัดสรรเวลา ดังนี้
- สายการบิน Flydubai (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) เส้นทางไป-กลับ ดูไบ-กระบี่
- สายการบิน Scoot Tigerair (สาธารณรัฐสิงคโปร์) เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์-กระบี่
- สายการบิน LOT Polish Airlines (สาธารณรัฐโปแลนด์) เส้นทางไป-กลับ วอร์ซอ-กระบี่
- สายการ TUI Fly (ราชอาณาจักรสวีเดน) เส้นทางไป-กลับ สต๊อกโฮล์ม-กระบี่
- สายการ Jetstar Asia Airways (สาธารณรัฐสิงคโปร์) เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์-กระบี่
- สายการบิน Thai AirAsia เส้นทางไป-กลับ เชียงใหม่-กระบี่
- สายการบิน Bangkok Airways เส้นทาง เชียงใหม่-กระบี่-กรุงเทพฯ
- เที่ยวบินประจำระหว่างประเทศ จำนวน 6 สายการบิน
1.สายการบิน AirAsia Berhad เส้นทางไป-กลับ กัวลาลัมเปอร์ - กระบี่ (จำนวน 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
2.สายการบิน Flydubai เส้นทางไป-กลับ ดูไบ - กระบี่ (จำนวน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
3.สายการบิน Scoot Tigerair เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์ - กระบี่ (จำนวน 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ )
4. สายการบิน Jetstar Asia Airways เส้นทางไป-กลับ สิงคโปร์ - กระบี่ (จำนวน 6 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
5. สายการบิน Shanghai Airlines เส้นทางไป-กลับ เซี่ยงไฮ้ - กระบี่ (จำนวน 6- 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
6. สายการบิน China Eastern Airlines เส้นทางไป-กลับ อุรุมฉี - เหอเฟ่ย - กระบี่ (จำนวน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์)
- เที่ยวบินเช่าเหมาระหว่างประเทศ จำนวน 3 สายการบิน
1. สายการบิน TUI fly - เส้นทางไป-กลับ สตอกโฮล์ม - กระบี่ (จำนวน 23 เที่ยวบิน)
- เส้นทางไป-กลับ โคเปนเฮเกน - กระบี่ (จำนวน 15 เที่ยวบิน)
- เส้นทางไป-กลับ เฮลซิงกิ - กระบี่ (จำนวน 14 เที่ยวบิน)
2. สายการบิน LOT Polish Airlines - เส้นทางไป-กลับ ปราก - กระบี่ (จำนวน 22 เที่ยวบิน)
- เส้นทางไป-กลับ วอร์ซอ - กระบี่ (จำนวน 14 เที่ยวบิน)
3. สายการบิน Neos Airlines (NEW) - เส้นทางไป-กลับ ปราก - กระบี่ (จำนวน 12 เที่ยวบิน)
นอกจากนี้ คณะผู้แทนของกรมท่าอากาศยานได้นำเสนอข้อมูลของท่าอากาศยานนานาชาติสุราษฎร์ธานีและท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน เพื่อให้สายการบินนำข้อมูลไปพิจารณาในการจัดทำแผนการเปิดทำการบินในโอกาสต่อไป
โดยสายการบินที่มีการสอบถามข้อมูลท่าอากาศยานที่อยู่ในความดูแลของกรมท่าอากาศยานเพื่อนำไปทำแผนการทำการบิน
- สายการบิน Eastar Jet (สาธารณรัฐเกาหลี) สอบถามข้อมูลขีดความสามารถของท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่
- สายการบิน Spring Airlines (สาธารณรัฐประชาชนจีน) สอบถามข้อมูลของเพิ่มเติมของ ท่าอากาศยานนานาชาติกระบี่ และท่าอากาศยานสุราษฎร์ธานี และท่าอากาศยานอุดรธานี
การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก การได้พบปะกับสายการบินทำให้สามารถเสนอข้อมูลที่ตรงตามความต้องการ รวมถึงได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และเชิญชวนสายการบินที่สนใจทำการบินกับท่าอากาศยานในสังกัดกรมท่าอากาศยาน รวมถึงได้นำข้อมูลข้อเสนอแนะของสายการบินมาปรับปรุงการดำเนินการและเตรียมความพร้อมในการวางแผนพัฒนาท่าอากาศยานอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปิดเส้นทางบินใหม่ สายการบิน และเที่ยวบินที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต