ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.83 อ่อนค่าตามเงินหยวน มองกรอบพรุ่งนี้ 36.65 - 36.90

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday June 18, 2024 17:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 36.83 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าเล็ก น้อยจากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.81 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเคลื่อนไหวตามทิศทางเงินหยวนที่อ่อนค่า โดยระหว่างวัน เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.73 - 36.85 บาท/ ดอลลาร์

"บาทแข็งค่า หลังมีข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญออกมา ก่อนจะกลับมาอ่อนค่าตามภูมิภาค โดยมีเงินหยวนเป็นผู้นำ" นักบริหาร
เงิน กล่าว

โดยคืนนี้ ตลาดรอดูการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกเดือน พ.ค.ของสหรัฐฯ

นักบริหารเงินฯ ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันพรุ่งนี้ไว้ที่ 36.65 - 36.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 158.07 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 157.64 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0723 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0735 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,297.41 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด, +0.06% มูลค่าซื้อขายราว 38.015.41 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,716.10 ล้านบาท
  • รมว.คลัง เผยรัฐบาลอยู่ระหว่างพิจารณามาตรการกระตุ้นตลาดทุนไทย โดยหลังจากนี้จะมีออกมาอีกหลายมาตรการ เช่น
มาตรการกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะมีการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ เพื่อให้มีความเหมาะสม และดึงดูดนักลงทุนได้มากขึ้น
  • ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเอกฉันท์รับหลักการร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ที่เสนอให้มีการแก้ไข
เพิ่มเติมในหลักการสำคัญว่าด้วยเกณฑ์ผ่านประชามติ โดยลดจากเกณฑ์เสียงข้างมากสองชั้น เป็นเกณฑ์เสียงข้างมากชั้นเดียว
  • ศาลรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีคำสั่งนัดวินิจฉัยคดีถอดถอนนายเศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และคดียุบพรรคก้าว
ไกลในวันนี้ โดยกำหนดนัดพิจารณาต่อไปเดือน ก.ค.67 ทั้งสองคดี
  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เผยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-16 มิ.ย.67 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยแล้ว 16.2 ล้าน
คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายประมาณ 7.65 แสนล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน
3,179,539 คน มาเลเซีย 2,253,397 คน อินเดีย 952,470 คน รัสเซีย 888,203 คน และเกาหลีใต้ 874,903 คน
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ ปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจไทยปี 67 ขยายตัว 2.5% จากเดิมคาด
2.7% โดยเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้าจากความไม่แน่นอนมากขึ้น ทั้งปัจจัยภายนอกที่มีปัญหากีดกันการค้า ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และ
ความไม่แน่นอนภายในประเทศ จากปัจจัยการเมืองกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีกำหนดเข้าแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปี ต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคาร
แห่งวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 9 ก.ค.นี้
  • ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เผยอาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.นี้ ขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในขณะนั้น
ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะผลักดันให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากในปัจจุบันที่อยู่ระดับใกล้ 0%
  • ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 4.35% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี โดย

คณะกรรมการ RBA คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายติดต่อกันในการประชุม 5 ครั้ง และเป็นไปตามการคาดการณ์ของตลาด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ