"ภูมิธรรม" สั่ง มท.ศึกษากระตุ้นอสังหาเพิ่มสัดส่วนต่างชาติซื้อคอนโดฯเป็น 75% ถือครองได้ 99 ปี

ข่าวเศรษฐกิจ Friday June 21, 2024 16:02 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี มีหนังสือด่วนที่สุดถึงกระทรวงมหาดไทยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ขอให้กระทรวงมหาดไทยศึกษาความเป็นไปได้ของ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านภาคอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค ตลอดจนดึงดูดนักลงทุนขนาดใหญ่ให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยมีปัจจัยต่าง ๆ ที่จะส่งเสริมการเข้ามาทำงานของชาวต่างชาติที่มีศักยภาพ

1.บททวนการกำหนดระยะเวลาของทรัพย์อิงสิทธิตามพระราชบัญญัติทรัพย์อิงสิทธิ พ.ศ. 2562 โดยกำหนดให้ทรัพย์อิงสิทธิมีกำหนดเวลาได้ไม่เกิน 99 ปี

และ 2.ทบทวนหลักเกณฑ์และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการให้สิทธิคนต่างด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุด จากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75% โดยอาจกำหนดเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการของนิติบุคคลอาคารชุด เช่น การจำกัดสิทธิการออกเสียงของคนต่างด้าวและนิติบุคคลต่างด้าวที่ได้เข้ามาถือกรรมสิทธิ์ในภายหลังจากที่เกินอัตราส่วน 49%

ทั้งนี้ หากจำเป็นต้องตราหรือแก้ไขปรับปรุงกฎหมายประการใดเพื่อรองรับการดำเนินการในเรื่องนี้ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการตามขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเสนอคณะรัฐมนตรีโดยเร็วต่อไป

นายภูมิธรรม กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นเรื่องสืบเนื่องมาจากมติครม.เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ซึ่งกระทรวงการคลังเสนอให้ ครม.พิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นแพ็กเก็จที่มีประมาณ 10 ประเด็น มาจากการรวบรวมความเห็นของหน่วยงานต่างๆ ประชาชน ภาคเอกชน และมี 2 เรื่องที่ค้างอยู่ให้ไปศึกษาความเป็นไปได้ คือ การแก้กฏหมายช่วยให้ต่างชาติซื้อคอนโดได้ 75% และถือครองได้ 99 ปี

การกำหนดเกณฑ์สัดส่วนถือครองอสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติเป็นข้อเสนอที่ต้องไปรับฟังความเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง ส่วนไหนทำได้ก็ทำไป แต่ 2 ข้ออยู่ในขั้นตอนที่จะไปศึกษาความเป็นไปได้

"การประชุมครม.ในวันนั้นแค่มาตามเรื่องผลการศึกษามีความคืบหน้าอย่างไร จึงขอให้ช่วยดูรายละเอียดและสรุปเข้ามารายงานในที่ประชุมครม.อีกครั้ง และไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาว่า จะต้องได้ข้อสรุปเมื่อไร แต่ก็ให้ทำโดยเร็ว เพราะก่อนหน้านี้ใช้เวลาไปนานแล้ว แต่หากผลสรุประบุว่า ได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่หากไม่ได้ข้อสรุปก็ยังไม่ได้มีการตัดสินใจ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยรับหน้าที่ไปศึกษา โดยจะต้องไปดูว่า สิ่งไหนเป็นประโยชน์หรือติดปัญหา" นายภูมิธรรม กล่าว

กรณีที่มีความกังวลว่า จะนำเรื่องนี้ไปโยงกับทางการเมือง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่กังวลเรื่องนี้ เพราะเป็นการสั่งให้ไปศึกษา เพราะเป็นข้อเสนอของประชาชนและผู้ประกอบการ ถ้ารัฐบาลเห็นด้วยก็ดำเนินการเป็นมติครม.ออกไป แต่ถ้ายังไม่แน่ใจก็ต้องไปศึกษา เพราะอาจมีปัญหาที่เกิดขึ้น จึงอยู่ในขั้นตอนศึกษา

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลที่ผ่านมาเคยตีตกเรื่องนี้ไปแล้วจะนำมาเป็นบทเรียนกับรัฐบาลนี้หรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลนี้ยังมีเรื่องให้ทำอีกมาก เมื่อเป็นการศึกษาก็ถือว่ารัฐบาลนี้ได้ทำแล้ว ส่วนผู้ศึกษาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็เป็นสิทธิที่จะทำได้

ส่วนจะเป็นเอื้อให้กับเอกชนบางรายหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเอื้อเอกชนก็คงตัดสินใจไปแล้วว่าให้ทำได้ แต่ตอนนี้ยังเป็นแค่การศึกษาว่าทำได้หรือไม่ และเป็นธรรมหรือไม่ ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ และการที่มีการเสนอมาตรการนี้มาก็ถือว่าเป็นการฟังเสียงผู้ประกอบการที่เสนอมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องข้อจำกัดที่ต่างชาติจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลนี้พยายามจะพิจารณาสิ่งไหนทำได้ก็จะทำเลย

วานนี้ได้เจอกับหอการค้าต่างประเทศ กว่า 30 คนจากทั่วโลก ได้มีการพูดคุยถึงมาตรการต่างๆในการประกอบธุรกิจและการลงทุน ทั้งมาตรการวีซ่า ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ประกอบการที่จะเสนอมาตรการต่างๆ เมื่อเป็นรัฐบาลก็รับเรื่องมาพิจารณา สิ่งไหนเหมาะสม ถูกต้อง ได้ประโยชน์ ไม่ผิดกฏหมายก็ทำเลย แต่สิ่งไหนยังคลางแคลงใจหรือไม่สบายใจ ไม่แน่ใจก็ต้องดูข้อกฏหมาย เมื่อเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ทำ ถ้าเป็นไปได้และมีเหตุผล ชี้แจงได้ ก็นำเข้าเสนอให้ที่ประชุมครม.พิจารณา โดยใช้ดุลพินิจและประโยชน์สูงสุดที่รัฐบาลจะได้รับ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ