ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดาวโจนส์แกร่ง,น้ำมันร่วง หนุนดอลล์แข็งเทียบเยน,ฟรังค์

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 13, 2008 07:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ภาวะการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยนและฟรังค์สวิส เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นและราคาน้ำมันดิบร่วงลง และรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของธนาคาร HSBC
นอกจากนี้ นักลงทุนเข้าซื้อดอลลาร์ก่อนที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนเม.ย.และก่อนที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแสดงความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจในวันอังคาร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นแตะระดับ 103.91 เยน/ดอลลาร์ จากระดับของวันศุกร์ที่ 102.83 เยน/ดอลลาร์ และพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.0443 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0407 ฟรังค์/ดอลลาร์
ขณะที่สกุลเงินยูโรแข็งขึ้นแตะระดับ 1.5536 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.5481 ดอลลาร์/ยูโร และค่าเงินปอนด์แข็งขึ้นแตะระดับ 1.9569 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.9532 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นแตะระดับ 0.7704 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7690 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ และดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 0.9467 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.9420 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย
ดอลลาร์ได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคาร HSBC Holdings PLC รายงานผลกำไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว แม้ธนาคารต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีลงราว 3.2 พันล้านดอลลาร์เนื่องจากขาดทุนในตลาดซับไพรม์ และดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นกว่า 130 จุด เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเรื่องเงินเฟ้อหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ แตะระดับ 124.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 126.40 ดอลลาร์
นักลงทุนจับตาดูการแสดงความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจของเบอร์นันเก้ในวันอังคารนี้ เพื่อประเมินว่าเบอร์นันเก้มีความคิดเห็นอย่างไรต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา อีกทั้งให้ความสำคัญกับยอดค้าปลีกประจำเดือนเม.ย.ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในวันอังคารนี้ และดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันพุธ
เกวิน เฟรนด์ นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงค์ กล่าวว่า "ยอดค้าปลีกของสหรัฐเป็นข้อมูลที่สามารถบ่งชี้สถานะทางเศรษฐกิจได้ระดับหนึ่ง เราคาดว่าหากยอดค้าปลีกซบเซาลงก็จะเป็นปัจจัยลบที่ถ่วงดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลงด้วย นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานยอดขายของบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ อาทิ บริษัทวอล-มาร์ท"

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ