ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจในเดือนมิ.ย. 67 อยู่ที่ระดับ 48.7 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 48.0 ในเดือนพ.ค.67 แต่ยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 อย่างต่อเนื่อง สะท้อนภาวะธุรกิจโดยรวมที่ดีขึ้นไม่ชัดเจน
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นในภาคการผลิต ในภาพรวมยังใกล้เคียงระดับ 50 อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2565 สะท้อนภาวะการผลิตที่ทรงตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ความเชื่อมั่นของบางกลุ่มอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวชัดเจนขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ได้แก่ กลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ที่ความเชื่อมั่นดีขึ้นจากด้านผลประกอบการ และการส่งออกในหลายกลุ่มสินค้า อาทิ เซมิคอนดักเตอร์ แผ่นวงจรพิมพ์ และอุปกรณ์ต่อพ่วง รวมถึงความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตยาง และพลาสติก ที่ปรับดีขึ้นตามความต้องการใช้งานกลุ่มบรรจุภัณฑ์พลาสติก และคำสั่งซื้อกลุ่มผลิตภัณฑ์ยางพารา ที่ทยอยเพิ่มขึ้นหลังจากที่สต็อกของคู่ค้าเริ่มลดลง
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นในภาคที่มิใช่การผลิต ปรับลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2566 และลดลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ในเกือบทุกหมวดธุรกิจ นำโดยกลุ่มอสังหาฯ และการค้า แต่ดัชนีฯ ของกลุ่มก่อสร้าง ปรับเพิ่มขึ้นตามการทยอยเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐปี 2567
สำหรับในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมยังอยู่เหนือระดับ 50 สะท้อนความเชื่อมั่นต่อภาวะธุรกิจในระยะข้างหน้าที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจุบัน แต่สัดส่วนผู้ที่คิดว่าภาวะธุรกิจจะดีขึ้น มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี 2566 โดยเฉพาะช่วงต้นปี 2567 ที่ดัชนีฯ ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นผลจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในภาคที่มิใช่การผลิต โดยเฉพาะกลุ่มการค้า อสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มก่อสร้างที่ปรับลดลงมาก จากปัจจัยชั่วคราวที่งบประมาณภาครัฐปี 2567 ได้รับอนุมัติล่าช้า
สำหรับความเชื่อมั่นในภาคการผลิตมีแนวโน้มทรงตัว โดยดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผลิตเคมี ปิโตรเลียม ยาง และพลาสติก รวมทั้งกลุ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นชัดเจนในไตรมาสนี้ แต่บางกลุ่มธุรกิจ อาทิ กลุ่มผลิตยานยนต์ และกลุ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความเชื่อมั่นปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการในประเทศ และการส่งออกที่ยังมีความไม่แน่นอน