ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 36.77 อ่อนค่าตามภูมิภาค ตลาดรอตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐประเมินทิศทางดอกเบี้ยเฟด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 3, 2024 17:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 36.77 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจาก ช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 36.68 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าตามทิศทางของเงินหยวน และสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาค หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาไม่ค่อยดี นัก นอกนั้นยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีผลต่อค่าเงินมากนัก โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบที่ 36.76-36.88 บาท/ดอลลาร์

คืนนี้ ตลาดรอดูประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ หลายตัว เนื่องจากวันที่ 4 ก.ค. ตลาดทางฝั่งสหรัฐฯ จะหยุดทำ การเนื่องในวันชาติ โดยข้อมูลที่ตลาดให้ความสนใจเพื่อหาสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แก่ ตัวเลขจ้างงาน ภาคเอกชนเดือนมิ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, รายงานการประชุมรอบวันที่ 11-12 มิ.ย. ของคณะกรรมการกำหนด นโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

"วันที่ 4 ก.ค. เป็นวันชาติของสหรัฐ ทำให้คืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจทยอยประกาศออกมาหลายตัว ซึ่งคาดว่าค่าเงินน่าจะผันผวน ตามโทนของข้อมูลเศรษฐกิจแต่ละตัวที่จะออกมา" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 36.60-36.90 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 161.88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 161.60 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0755 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0745 ดอลลาร์/ยูโร
  • ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ 1,294.70 จุด เพิ่มขึ้น 6.12 จุด (+0.47%) มูลค่าซื้อขายราว 27,632.08 ล้านบาท
  • สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,334.88 ล้านบาท
  • ธนาคารโลก (World Bank) ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 67 เหลือโต 2.4% จากที่เคยประมาณการไว้เดิม
เมื่อเดือนเม.ย. ที่ 2.8% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการส่งออก และการลงทุนภาครัฐในช่วงต้นปีที่น้อยกว่าคาดการณ์ ขณะที่ในปี 68 คาดว่า
เศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 2.8% (จากเดิมคาดโต 3%) จากอุปสงค์ที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการใช้จ่ายภาครัฐที่
เพิ่มขึ้น
  • คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ปรับเพิ่มกรอบคาดการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้ โต 0.8-1.5%
จากกรอบเดิมที่ 0.5-1.5% เนื่องจากมีปัจจัยชั่วคราวจากการเร่งสั่งซื้อสินค้า และการปรับเปลี่ยนมาส่งออกจากไทย ขณะที่ กกร.ยังคง
กรอบ GDP ปีนี้ไว้เท่าเดิมที่ 2.2-2.7% และอัตราเงินเฟ้อที่ 0.5-1.0%
  • กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยสถานการณ์การท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีแรก ระหว่างเดือนม.ค.-มิ.ย. 67 จำนวนนักท่อง
เที่ยวต่างชาติทะลุ 17.5 ล้านคน เติบโตอย่างแข็งแกร่งทั้งจำนวนและรายได้ ขณะที่ ททท. พร้อมเสิร์ฟบิ๊กอีเวนต์ต่อเนื่อง เสริมแรงกระตุ้น
การท่องเที่ยวช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมปล่อย อีเวนต์ครอบคลุมพื้นที่เมืองหลักเมืองน่าเที่ยวในเดือนก.ค.-ส.ค. นี้
  • กระทรวงการคลังญี่ปุ่น เปิดเผยว่า รายได้จากการจัดเก็บภาษีของญี่ปุ่น ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง ในปีงบ
ประมาณที่สิ้นสุดเดือนมี.ค. โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินเยน และภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ รายได้จากการจัด
เก็บภาษีสำหรับปีงบประมาณล่าสุด เพิ่มขึ้นแตะระดับ 72.1 ล้านล้านเยน (4.46 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
  • ข้อมูลจาก CCData ซึ่งเป็นบริษัทวิจัย ระบุว่า ราคาบิตคอยน์ ยังไม่ได้แตะจุดสูงสุดของวงจรในปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่า
ราคาบิตคอยน์จะทะยานขึ้นทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำไว้ในปีนี้ โดยในเดือนมี.ค.67 ราคาบิตคอยน์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็น
ประวัติการณ์ที่เหนือระดับ 73,700 ดอลลาร์
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซน เดือนมิ.ย.67 อยู่ที่ระดับ 50.9
ลดลงจากที่ทำสถิติสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ 52.2 ในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ การเติบโตของภาคธุรกิจโดยรวมในยูโรโซน ชะลอตัวลงอย่างมาก
ในเดือนมิ.ย. แม้ภาคบริการ ซึ่งเป็นภาคเศรษฐกิจหลักยังคงเติบโตได้ดี แต่ก็ไม่สามารถชดเชยการหดตัวในภาคการผลิตได้
  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนมิ.ย.67 ของจีน ชะลอตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน และความ

เชื่อมั่นของภาคบริการในเดือนมิ.ย. ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน โดยถูกกดดันจากยอดสั่งซื้อใหม่ที่อ่อนแอลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ