นักวิเคราะห์กล่าวว่า เหตุแผ่นดินไหวในประเทศจีนซึ่งวัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.8 ริกเตอร์และเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในรอบ 58 ปีนั้น อาจทำให้ความต้องการพลังงานของจีนลดน้อยลง เนื่องจากโรงงานพลังงานและสถานีจ่ายไฟฟ้าใช้การไม่ได้
แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้พลังงานไฟฟ้าของจีนได้รับความเสียหายถึง 5.5 กิ๊กกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1% ของปริมาณการผลิตพลังงานไฟฟ้าภายในประเทศ โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบด้านพลังงานมากที่สุดคือมณฑลซานซีและเสฉวน
"เหตุแผ่นดินไหวในประเทศจีนครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการพลังงานเนื่องจากโรงงานผลิตไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ซึ่งเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ความต้องการพลังงานในจีนก็ลดลงไปแล้ว" นายฟิล ไฟน์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอลารอน เทรดดิ้ง ในเมืองชิคาโก กล่าวกับผู้สื่อข่าว
ยอดนำเข้าน้ำมันของจีนในเดือนเม.ย.ลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ทำให้กลุ่มโรงกลั่นน้ำมันหันไปซื้อเชื้อเพลิงทางเลือกใหม่ที่มีต้นทุนต่ำกว่า
ด้านนายวิลเลียม โอนีล นักวิเคราะห์จากบริษัทลอจิก แอดไวซอรีส์ ในรัฐนิว เจอร์ซีย์ กล่าวว่า "เหตุการณ์แผ่นดินไหวอาจทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น แต่ก็จะขึ้นอยู่กับว่าภัยพิบัติครั้งนี้จะส่งผลกระทบต่อระบบขนส่งมากน้อยเพียงใด มณฑลเสฉวนถือเป็นพื้นที่สำคัญทางการเกษตร และนี่เป็นปัญหาใหญ่"
สำนักงานบัณฑิตยสภาด้านสังคมศาสตร์ของจีนคาดการณ์ว่า ราคาอาหารในจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก จะพุ่งขึ้นโดยเฉลี่ย 10% หรือมากกว่าในปีนี้ เนื่องจากปริมาณความต้องการอาหารมีมากกว่าปริมาณที่ผลิตได้
"เราคาดว่าราคาอาหารจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น รวมถึงราคาถั่วเหลืองและข้าวโพด เนื่องจากจีนจำเป็นต้องลำเลียงสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้เข้าไปช่วยบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหว" รอน ลอว์สัน นักวิเคราะห์จากบริษัทสเต็ดฟาสท์ ฟิวเจอร์ส แอนด์ อ็อพชั่น กล่าว
นอกจากนี้ มีรายงานว่าโรงงานถลุงโลหะอลูมิเนียมในมณฑลเสฉวนได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย โดยนายหวัง ลิน นักวิเคราะห์จากซีอาร์ยู อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า มณฑลเสฉวนสามารถผลิตอลูมิเนียมได้ประมาณ 600,000 ตัน และจีนขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่ผลิตอลูมิเนียมได้มากที่สุดในโลก โดยสามารถผลิตได้กว่า 15 ล้านตันต่อปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความวิตกกังวลที่ว่าความต้องการพลังงานในจีนอาจลดน้อยลงเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหว 7.8 ริกเตอร์นั้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.73 ดอลลาร์ หรือ 1.37% ปิดที่ 124.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.0-2253-5050 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--