นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐพุฒิ สิทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจว่า รัฐบาลขอเชิญชวนให้ผู้ว่าการ ธปท. คิดบวกร่วมกับรัฐบาลในการพัฒนาประเทศ โดยหวังว่าผู้ว่าการ ธปท.จะดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างสมดุลและสอดคล้องกับเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตามที่รัฐบาลได้ให้สัญญากับประชาชนไว้ เพื่อความผาสุกของประชาชนอย่างถ้วนหน้า
รัฐบาลต้องขอบคุณที่ผู้ว่าการ ธปท.เข้าใจดีว่าเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้า ยากที่จะกลับไปเติบโตเท่ากับช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ประชาชนพบกับความลำบาก มีหลุมรายได้ รายได้ไม่เพิ่มขึ้น ขณะที่มีรายจ่ายค่าครองชีพสูงขึ้น อีกทั้งยังเห็นสอดคล้องกับทิศทางของรัฐบาลในการเปลี่ยนผ่านโครงสร้างอุตสาหกรรมของไทยที่เป็นอุตสาหกรรมเก่าแข่งขันได้ยากไปสู่อุตสาหกรรมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีสูงขึ้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้สูงขึ้น
"สิ่งที่ผู้ว่าการ ธปท.กล่าวมานี้สอดคล้องกับการทำงานของรัฐบาลที่ได้ดำเนินการมาตลอดคือ มองไปข้างหน้า พยายามปรับโครงสร้างภาคการผลิต อีกทั้งพยายามเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ทั้งจากโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศ และเพิ่มความสามารถด้านทักษะแรงงานของไทย ซึ่งรัฐบาลทราบดีว่าไทยต้องพัฒนาเพื่อดึงดูดการลงทุน ยกระดับการพัฒนา และนี่เป็นวิสัยทัศน์ในการทำงานของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งปรับการดึงดูดการลงทุนให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาค" นายชัย กล่าว
อย่างไรก็ดี มาตรการระยะสั้นที่จะช่วยเหลือดูแลประชาชนในการดำรงชีวิตได้อย่างทันท่วงทีก็เป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญเพื่อช่วยเหลือดูแลการดำรงชีวิตของประชาชนให้สามารถประคองตัวเองไปได้จนถึงวันที่โครงสร้างทางเศรษฐกิจของไทยได้เปลี่ยนผ่านไปสู่ความทันสมัยแล้ว
"ต้องขอบคุณผู้ว่าการ ธปท.ที่มองว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตกว่านี้ได้ แม้ว่าท่านจะมองว่าศักยภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกิจไทยจากนี้ไปจนถึงปี 2571 จะเติบโตได้ไม่เกินปีละ 3% ซึ่งในประเด็นนี้รัฐบาลต้องขอน้อมรับความท้าทาย ด้วยการมุ่งมั่นทำงานอย่างหนักและทำงานด้วยทัศนคติที่เป็นบวกอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ให้สมกับที่แบกความหวังของประชาชนที่ฝากเอาไว้ เพื่อทำให้ประชาชนคนไทยมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น" นายชัย กล่าว