นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลแสดงความกังวลเกี่ยวกับการใช้เงินสภาพคล่องส่วนเกินของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อรองรับโครงการดิจิทัล วอลเล็ต เนื่องจากปัจจุบันสภาพคล่องส่วนเกินของ ธ.ก.ส. มีอยู่ราว 2-3 หมื่นล้านบาท ว่า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นประเด็นอะไร เพราะในหลักการเรื่องสภาพคล่องส่วนเกินของสถาบันการเงินนั้น จะมีการปรับขึ้นลงในแต่ละวันอยู่แล้ว ถือเป็นการบริหารสภาพคล่องของธนาคารที่ทำได้ไม่ยาก และธนาคารจะมีเครื่องมือต่าง ๆ ที่รองรับอยู่แล้ว
"สภาพคล่องของ ธ.ก.ส. สามารถผันแปรได้เรื่อย ๆ อยู่แล้ว ซึ่งธนาคารก็จะมีเครื่องมือในการบริหารจัดการสภาพคล่องส่วนเกิน เพียงแต่หากมีความต้องการใช้เงิน จะต้องแจ้งธนาคารไปล่วงหน้า 3-4 สัปดาห์ก็เท่านั้น ส่วนที่มีความกังวลว่าจะต้องมีการเพิ่มทุนให้ ธ.ก.ส. หรือไม่ ยืนยันว่าหากเป็นการเพิ่มทุนเพื่อรองรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ไม่จำเป็น ส่วนการเพิ่มทุนในประเด็นอื่น ๆ ก็เป็นอีกเรื่องที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องไปพิจารณา" รมช.คลัง กล่าว
ทั้งนี้ วันที่ 10 ก.ค. จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งที่ประชุมจะต้องสรุปรายละเอียดทั้งหมด ทั้งไทม์ไลน์ในการยืนยันตัวตน, การลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิของร้านค้า และประชาชน, แอปพลิเคชันที่จะใช้ในการลงทะเบียน, ขั้นตอนการลงทะเบียน, สิ่งที่ประชาชนจะต้องเตรียม และต้องเจอเวลาลงทะเบียน, สินค้า Negative List
"ทั้งหมดจะมีรายละเอียดที่ชัดเจน เพื่อเตรียมส่งให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พิจารณาในวันที่ 15 ก.ค.นี้" รมช.คลัง กล่าว
ส่วนไทม์ไลน์เรื่องการจ่ายเงินถึงมือประชาชนนั้น รัฐบาลยังยืนยันชัดเจนว่าจะไม่เกินไตรมาส 4/2567 ส่วนจะเป็นเดือนใดนั้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน
สำหรับประเด็นการส่งเรื่องไปสอบถามกฤษฎีกา กรณีการใช้เงินของ ธ.ก.ส. เพื่อรองรับการดำเนินโครงการฯ ตามมาตรา 28 นั้น ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วง และรัฐบาลได้เตรียมแนวทางเรื่องงบประมาณไว้ในหลายมิติ หลายมุม
ทั้งนี้ รัฐบาลมีกำหนดจะแถลงความชัดเจนของโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนได้รับทราบในวันที่ 24 ก.ค.นี้ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี