นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ก.ค.67 อยู่ที่ระดับ 69.16 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 0.58 จุด หรือคิดเป็น 0.85% จากระดับ 68.58 จุด ในเดือน มิ.ย.67 โดยมีปัจจัยมาจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัย แรงซื้อเก็งกำไร ความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย และแรงซื้อทองคำจากธนาคารกลางชาติต่าง ๆ ทั่วโลก
ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำ ระยะ 3 เดือนในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 (ก.ค.-ก.ย.) อยู่ที่ระดับ 68.50 จุด เพิ่มขึ้น 0.02 จุด หรือคิดเป็น 0.04% จากระดับ 68.48 จุด ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 โดยมีปัจจัยจากความต้องการทองคำของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ แรงซื้อเก็งกำไรของกองทุน เงินทุนไหลออกจากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ความต้องการซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และภาวะอัตราเงินเฟ้อ
โดยคาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน ก.ค.67 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 324 ราย ในจำนวนนี้มี 189 ราย หรือเทียบเป็น 58% คาดว่าจะซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 81 ราย หรือเทียบเป็น 25% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำ และจำนวน 54 ราย หรือเทียบเป็น 17% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่
ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่ และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 13 ราย ในจำนวนนี้มี 6 ราย หรือเทียบเป็น 46% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน กรกฎาคม 2567 จะเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 4 ราย หรือเทียบเป็น 31% คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน มิถุนายน 2567 และจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 23% คาดว่าจะลดลง
สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน ก.ค.67 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 2,280-2,403 ดอลลาร์/ออนซ์ ด้านราคาทองคำแท่งในประเทศ ความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 39,900-41,700 บาท/บาททองคำ และด้านค่าเงินบาท ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 36.18-37.11 บาท/ดอลลาร์
คำแนะนำการลงทุนทองคำในเดือน ก.ค.67 ผู้ค้าทองคำรายใหญ่ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Up โดยแนะนำทยอยสะสม เมื่อราคาทองคำย่อตัวลง และแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาทองดีดตัวสูงขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน เนื่องจากราคาทองคำมีความผันผวนสูง และแกว่งตัวตามกระแสข่าวที่เป็นปัจจัยกระทบต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ นักลงทุนจึงต้องระมัดระวังในการลงทุน และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด