อัตราเงินเฟ้อของอังกฤษในเดือนเม.ย. 2551 พุ่งขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2545 มาแตะที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งอาจส่งผลให้เป็นเรื่องยากสำหรับธนาคารกลางอังกฤษที่จะส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ย
สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนเม.ย.พุ่ง 3% จากระดับปีที่แล้ว เมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขเดือนมี.ค.ที่ 2.5% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 13 เดือนและยังสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 37 คนที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นและคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 2.6%
เทรเวอร์ วิลเลียมส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของลอยด์ ทีเอสบี กรุ๊ป กล่าวว่าการลดดอกเบี้ยคงจะเป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดถึงอีกแล้ว เพราะปัญหาที่ส่งผลกระทบอย่างแท้จริงต่อเศรษฐกิจก็คือเรื่องเงินเฟ้อ
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนอาหารและพลังงานที่สูงขึ้น โดยอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในขีดจำกัดที่รัฐบาลได้กำหนดไว้ที่ 0.1% ซึ่งอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นยิ่งเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อราคาผู้บริโภคที่สูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางอังกฤษยกเลิกการลดดอกเบี้ย หลังจากที่ได้ลดดอกเบี้ยไปแล้วถึง 3 ครั้งนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว สู่ระดับ 5%
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--