เปิดแนวทางเยียวยาลูกค้าสินมั่นคง จากผลกระทบถูกสั่งปิด

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 17, 2024 11:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

เปิดแนวทางเยียวยาลูกค้าสินมั่นคง จากผลกระทบถูกสั่งปิด

จากกรณี บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK) ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.67 ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกับผู้ทำประกันภัยที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่นั้น

นายสมพร สืบถวิลกุล นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย เปิดเผยว่า สมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ประสานความร่วมมือกับบริษัทสมาชิกของสมาคมฯ เข้าร่วมใน "โครงการบรรเทาผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัยที่มีสัญญาประกันภัยกับ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย (SMK)" เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ให้ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยอย่างต่อเนื่อง และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจประกันวินาศภัยอีกทางหนึ่งด้วย

เปิดแนวทางเยียวยาลูกค้าสินมั่นคง จากผลกระทบถูกสั่งปิด

ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัย สามารถเลือกดำเนินการได้ 2 กรณี ดังนี้

  • ผู้เอาประกันภัย ติดต่อซื้อประกันภัยกับบริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ (กรมธรรม์ประกันภัยของ บมจ. สินมั่นคงประกันภัยฯ สิ้นสุด ณ วันที่ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยใหม่)

ผู้เอาประกันภัย สามารถนำค่าเบี้ยประกันภัยที่มีสิทธิได้รับคืนตามระยะเวลาที่เหลืออยู่ มาใช้แทนเงินสดในการซื้อกรมธรรม์ประกันภัยใหม่ กับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือผู้เอาประกันภัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้เอาประกันภัย จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเพียงบางส่วน ตามระยะเวลาความคุ้มครองที่เพิ่มเติมขึ้นมา โดยบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ จะทำหน้าที่รับภาระในการไปเรียกร้องค่าเบี้ยประกันภัยคืนจากกองทุนประกันวินาศภัยเอง

เปิดแนวทางเยียวยาลูกค้าสินมั่นคง จากผลกระทบถูกสั่งปิด
  • ส่วนผู้เอาประกันภัยที่มีกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ และกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่น ๆ ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ สามารถดำเนินการติดต่อทำประกันภัยฉบับใหม่ ได้ที่บริษัทประกันภัยที่เข้าร่วมโครงการ ดังนี้

1. ผู้เอาประกันภัย ติดต่อขอซื้อกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่ กับบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยวันเริ่มต้นความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่ ให้ถือว่าเป็นวันสิ้นสุดของกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดิม (ระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี)

2. บริษัทประกันวินาศภัย จะคำนวณเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับใหม่ ที่มีระยะเวลาความคุ้มครอง 1 ปี และจะคำนวณเบี้ยประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดิม ในส่วนที่มีสิทธิได้รับคืนตามระยะเวลาที่เหลืออยู่ (เบี้ยประกันภัยสำหรับกรมธรรม์ประกันภัยฉบับเดิมที่นำมาคำนวณเป็นเบี้ยประกันภัยสุทธิ ไม่รวมภาษีและอากร)

3. ผู้เอาประกันภัย โอนสิทธิเรียกร้องค่าเบี้ยประกันภัยที่มีสิทธิได้รับคืนจากกองทุนประกันวินาศภัย (ตามระยะเวลาที่เหลืออยู่) ให้บริษัทประกันวินาศภัยที่รับประกันภัยใหม่

4. บริษัทประกันวินาศภัย เรียกเก็บค่าเบี้ยประกันภัยจากผู้เอาประกันภัย หักด้วยเบี้ยประกันภัยที่มีสิทธิได้รับคืน

5. บริษัทประกันวินาศภัย รับภาระการไปเรียกเงินค่าเบี้ยประกันภัยคืนจากกองทุนประกันวินาศภัย แทนผู้เอาประกันภัย

ในกรณีที่ผู้ถือกรมธรรม์ประกันภัยของ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย (SMK) ไม่ประสงค์จะซื้อกรมธรรม์ประกันภัยใด ๆ ผู้เอาประกันภัยสามารถติดต่อไปที่ "กองทุนประกันวินาศภัย" เพื่อยื่นขอรับชำระหนี้ได้ ตั้งแต่วันที่ 9 กันยายน 2567 ถึง วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ตามช่องทางที่กองทุนประกันวินาศภัยประกาศกำหนด โดยกองทุนประกันวินาศภัย จะคืนเบี้ยประกันภัยให้ตามส่วนระยะเวลาความคุ้มครองที่เหลืออยู่ (เบี้ยเฉลี่ยรายวัน ตามความคุ้มครองที่เหลืออยู่)

ทั้งนี้ กองทุนประกันวินาศภัย จะดำเนินการส่งหนังสือทางไปรษณีย์ลงทะเบียน แจ้งบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยทุกฉบับ ไปยังผู้เอาประกันภัย โดยกรมธรรม์ประกันภัยทุกฉบับ จะสิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 8 กันยายน 2567

สำหรับ บริษัทประกันวินาศภัย ที่เข้าร่วมโครงการบรรเทาผลกระทบต่อผู้เอาประกันภัยของ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย (SMK) มีจำนวนทั้งสิ้น 9 บริษัท ดังนี้

1. บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)

2. บริษัท กรุงไทยพานิชประกันภัย จำกัด (มหาชน)

3. บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

4. บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน)

5. บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน)

6. บริษัท ประกันภัยไทยวิวัฒน์ จำกัด (มหาชน)

7. บริษัท มิตรแท้ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

8. บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน)

9. บริษัท เออร์โกประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)

*กรณีการประกันภัยรถยนต์

ในส่วนของแนวทางปฏิบัติการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน หากรถยนต์เกิดอุบัติเหตุนับตั้งแต่วันที่ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย (SMK) ถูกเพิกถอนใบอนุญาตฯ สมาคมฯ ได้มีหนังสือแจ้งขอความร่วมมือไปยังบริษัทประกันวินาศภัยทุกบริษัท ให้ถือปฏิบัติโดยไม่นำเรื่องสัญญาสละสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนระหว่างบริษัทประกันภัยมาใช้บังคับ เพื่อเป็นการบรรเทาผลกระทบของผู้เอาประกันภัยหรือคู่กรณีกรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ โดยขอความร่วมมือบริษัทประกันวินาศภัยดำเนินการจัดการค่าสินไหมทดแทน ดังนี้

กรณีที่ 1 กรณีที่รถของผู้เอาประกันภัยกับ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย เป็นฝ่ายผิด

ให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถฝ่ายถูก ดำเนินการจัดซ่อมหรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทน ให้กับผู้เอาประกันภัยของบริษัทตนเอง (ซึ่งเป็นคู่กรณีของ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย) ถือเสมือนไม่มีสัญญาสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งกันและกัน (Knock for Knock Agreement) และสามารถรับช่วงสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนคืนได้จากผู้ชำระบัญชี หรือกองทุนประกันวินาศภัยโดยตรง ในส่วนของรถยนต์ของผู้เอาประกันภัยของ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย ที่เป็นฝ่ายผิด ให้ไปยื่นขอรับชำระหนี้จากกองทุนประกันวินาศภัย

กรณีที่ 2 กรณีที่รถของผู้เอาประกันภัยกับ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย เป็นฝ่ายถูก

ให้บริษัทประกันภัยที่รับประกันภัยรถยนต์ฝ่ายผิด ดำเนินการจัดซ่อม หรือชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้เอาประกันภัยของ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย (SMK) ที่เป็นฝ่ายถูก เสมือนไม่มีสัญญาสละสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายซึ่งกันและกัน

"สมาคมประกันวินาศภัยไทย และบริษัทประกันวินาศภัยที่เข้าร่วมโครงการ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชน และผู้เอาประกันภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างเต็มความสามารถ เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น และขอย้ำว่า การเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย (SMK) ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางการเงิน หรือสภาพคล่องของบริษัทประกันวินาศภัยอื่น ๆ หรือธุรกิจประกันภัยในภาพรวมอย่างแน่นอน" นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ