"หมอเลี้ยบ"เผยรัฐยังจะทยอยปล่อยมาตรการเพิ่มรายได้-ลดรายจ่ายต่อเนื่อง

          นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจะทยอยประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับผู้มีรายได้น้อยและผู้ประกอบการรายย่อย พร้อมไปกันกับการลดรายจ่ายให้กับประชาชน โดยเน้นการประหยัดพลังงานที่จะสร้างแรงจูงใจอย่างรุนแรง 
          "วันนี้เรื่องลดรายจ่ายไม่พอ ต้องเพิ่มฐานรายได้ให้คนที่มีรายได้น้อยมีโอกาสในชีวิตมากขึ้น ซึ่งมีหลายเรื่องที่จะทำ"นพ.สุรพงษ์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์เย็นวันนี้
          รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติปรับเงินเพิ่มค่าครองชีพให้กับข้าราชการต่ำกว่าระดับซี 5 หรือเทียบเท่ามีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้แล้ว ทางการก็ยังจะทยอยประกาศมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการที่กำลังพิจารณาในขณะนี้คือการเพิ่มรายได้ให้กับข้าราชการที่จะต้องทำงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนงานที่ให้บริการประชาชน และการเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการรายย่อยด้วยการจัดการฝึกอบรมด้านต่าง ๆ เพิ่มทักษะ ความชำนาญ และความสามารถในวิชาชีพด้านต่าง ๆในลักษณะโรงเรียนนอกเวลา รวมทั้ง การพิจารณาเพิ่มค่าจ้างให้กับลูกจ้างชั่วคราว เป็นต้น          
          ส่วนในด้านการลดรายจ่ายนั้น ภายใน 2 สัปดาห์นี้ทางการจะมีมาตรการที่จะทำให้เกิดการจูงใจอย่างรุนแรงในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำมันและระบบขนส่ง เนื่องจากได้รับข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติว่าในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาปริมาณการนำเข้าน้ำมันไม่ได้ลดลงเลย แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 
          ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อกระตุ้นให้เกิดการประหยัดพลังงานอย่างรุนแรงและจริงจัง ภายใต้ความร่วมมือของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยอาจจะมีการนำมาตรการด้านการคลัง กองทุนอนุรักษ์พลังงาน มาตรการด้านคมนาคมขนส่งต่าง ๆ  มาใช้ร่วมกัน โดยอาจหยิบยกมาตรการประหยัดพลังงานที่เป็นแนวคิดในอดีตมาใช้อย่างจริงจัง อย่างเช่น car pool หรือ รถโรงเรียน เป็นต้น
          นอกจากนั้น ยังจะเร่งการลงทุนทางด้านเมกะโปรเจ็คต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะระบบรางให้เร็วขึ้นและเห็นความชัดเจนในการเริ่มโครงการได้ภายใน 2-3 เดือน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม 
          นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เชื่อว่ามาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลที่เน้นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนจะไม่ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อที่กำลังเร่งตัวขึ้น เพราะเน้นให้ประโยชน์กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยให้พออยู่ได้เท่านั้น และเชื่อว่าจะไม่ทำให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นอย่างที่มีผู้กังวล เพราะจะมีการดูแลทุกอย่างให้เกิดความสมดุล