นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.06 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจาก เปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.21 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางภูมิภาคและตลาดโลก ขณะที่มีกระแสเงินทุนต่างประเทศไหลเข้ามา ในตลาดพันธบัตรอีก 7.6 พันล้านบาท รวมแล้วทั้งสัปดาห์ราว 2 หมื่นล้านบาท ระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 36.06 - 36.26 บาท/ดอลลาร์
"บาทเคลื่อนไหวตามภูมิภาคแต่แข็งค่าสุด วันนี้มี Flow ไหลเข้ามาในตลาดพันธบัตรอีก 7.6 พันล้านบาท" นักบริหารเงิน
กล่าว
นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันอังคารไว้ที่ 35.95 - 36.15 บาท/ดอลลาร์
โดยคืนนี้นักลงทุนจับตาการประกาศตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ
- ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.21 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเช้าที่ระดับ 153.98 เยน/ดอลลาร์
- เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0852 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเช้าที่ระดับ 1.0853 ดอลลาร์/ยูโร
- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,307.21 จุด เพิ่มขึ้น 15.63 จุด, +1.21% มูลค่าซื้อขายราว 40,186.31 ล้านบาท
- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 53.06 ล้านบาท
- กระทรวงคลัง ปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจไทยในปีนี้ โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% (กรอบ 2.2-3.2%) ปรับเพิ่ม
จากประมาณการครั้งก่อนที่ 2.4% เมื่อเดือนเม.ย. โดยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยว ทั้งในมิติของจำนวนนักท่องเที่ยว และ
รายจ่ายต่อหัวนักท่องเที่ยวที่สูงกว่าประมาณการในครั้งก่อน ขณะที่การส่งออกมีสัญญาณขยายตัวดีกว่าที่คาด โดยปีนี้คาดจะขยายตัวได้ 2.7%
- นายกรัฐมนตรี หนุนกระตุ้นท่องเที่ยวต่อเนื่อง หลังยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาจนถึงขณะนี้เกินกว่า 20 ล้าน
คน ซึ่งขยายตัวเพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนกว่า 34%
- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในเดือนมิ.ย.67 ได้รับปัจจัยสนับ
สนุนจากภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี การบริโภคสินค้าคงทน และการลงทุนภาคเอกชน ยังคงไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ทั้งนี้ ยัง
คงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ กำลังซื้อของผู้บริโภคภายใน
ประเทศ และปริมาณการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมอย่างใกล้ชิดต่อไป
- สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยเดือน
มิ.ย.67 ว่า การส่งออกมีมูลค่า 24,796.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงเล็กน้อยที่ 0.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำ
เข้า มีมูลค่า 24,578.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.3% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 218 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเกินดุลการค้าต่อเนื่อง
เป็นเดือนที่ 2
- สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนี PCE ประจำเดือนมิ.ย.ในวันนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่อง
จากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค
(CPI)