ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.87 แข็งค่าตามเยน รอลุ้นผลประชุม BOJ วันนี้-จับตา Flow ช่วงสิ้นเดือน

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 31, 2024 09:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.87 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากปิดวันก่อนที่ระดับ 36.00 บาท/ดอลลาร์

ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ sideways ก่อนที่จะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว ตามการทยอย แข็งค่าขึ้นของเงินเยน หลังมีข่าวว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และปรับลดปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล

โดยวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุม BOJ ซึ่งต้องระวังความผันผวนในตลาดการเงิน หาก BOJ ไม่ได้ดำเนินนโยบาย การเงินที่เข้มงวดมากขึ้น อย่างที่ตลาดคาดหวัง ก็อาจกดดันให้เงินเยนพลิกกลับมาอ่อนค่าได้

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทนั้น การแข็งค่าอาจเริ่มชะลอลงตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อเงินดอลลาร์ของผู้เล่นในตลาดบางส่วน ในช่วงปลายเดือน

"เงินบาทมีโอกาสพลิกกลับมาอ่อนค่าลงได้เร็วและแรง หากตลาดผิดหวังกับผลการประชุม BOJ ในวันนี้" นายพูนระบุ

นายพูน มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.75-36.25 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.7525 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยนอยู่ที่ระดับ 152.29 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 154.69 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0819 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0831 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 35.982 บาท/ดอลลาร์
  • "เศรษฐา" เผยส่งคำแถลงปิดคดีศาลรัฐธรรมนูญ ปัดตอบรายชื่อ นายกฯ สำรอง แจงคุย "ทักษิณ" รอพ้นโทษ ให้ช่วยงาน
รัฐบาล รมว.กลาโหมประเมินสถานการณ์สิงหาไร้ป่วน ขณะที่ก้าวไกล แถลงใหญ่คดียุบพรรค 2 ส.ค.
  • พาณิชย์โชว์ตัวเลขส่งออกข้าวไทยฉลุย ครึ่งปีแรกกว่า 5 ล้านตัน ครึ่งหลังแค่ส่งได้ 5 แสนตัน/เดือน ดันเป้าใหม่ทะลุ
8.2 ล้านตัน จากเป้าเดิม 7.5 ล้านตัน มีลุ้นไทยครองที่สองของโลกแซงเวียดนาม กางแผนรุกตลาด เน้นโปรโมตเจาะรายประเทศ เร่ง
เจรจาขายจีทูจี
  • กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เปิดเผยข้อมูลประมาณการเบื้องต้นในวันนี้ (31 ก.ค.) ว่า ผล
ผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนมิ.ย. ลดลง 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยสาเหตุหลักมาจากการหยุดผลิตรถยนต์ชั่วคราว อัน
เนื่องมาจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐาน
  • สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ค.หดตัวลงติดต่อกัน
เป็นเดือนที่ 3 ซึ่งทำให้ตลาดคาดการณ์ว่ารัฐบาลจีนอาจจำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากวิกฤตภาคอสังหาริม
ทรัพย์และตลาดแรงงานที่ไร้เสถียรภาพยังคงฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ
  • สหรัฐรายงานยอดเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิ.ย.ลดลง 46,000 ตำแหน่ง สู่
ระดับ 8.18 ล้านตำแหน่ง จากระดับ 8.23 ล้านตำแหน่งในเดือนพ.ค. ทั้งนี้ ตัวเลข JOLTS นับเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสนใจ โดยมอง
ว่าเป็นมาตรวัดภาวะตึงตัวในตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นปัจจัยในการพิจารณานโยบายการเงิน และอัตราดอกเบี้ยของเฟด
  • ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร
(30 ก.ค.) ก่อนที่นักลงทุนจะรู้ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ในสัปดาห์นี้ รวมถึงรอการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐในวันศุกร์นี้ด้วย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันอังคาร (30 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคาร
กลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity
Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 74.10 ดอลลาร์ หรือ 3.12% ปิดที่ 2,451.90 ดอลลาร์/ออนซ์
  • สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า อุปสงค์ทองคำในประเทศอินเดียลดลง 5% ในไตรมาส 2/2567 เมื่อเทียบเป็นราย
ปี แต่ WGC คาดว่าอุปสงค์ทองคำในอินเดียจะฟื้นตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2567 เนื่องจากราคาทองคำภายในประเทศมีแนวโน้มลดลง
หลังจากรัฐบาลประกาศลดภาษีนำเข้าทองคำ
  • นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดคืนนี้ โดยตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 5.25-5.50% และ
คาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. รวมทั้งจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อ
หาสัญญาณบ่งชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์คาด
การณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 177,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. จากระดับ 206,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และคาดว่าอัตราว่าง
งานจะทรงตัวที่ระดับ 4.1% ในเดือนก.ค.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ