นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เตรียมเปิดแถลงผลการลงทะเบียนรับสิทธิโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านแอปพลิเคชั่น "ทางรัฐ" ในช่วงครึ่งวันแรก (08.00-12.00 น.) รวมทั้งชี้แจงปัญหาที่ประชาชนยังไม่สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการดังกล่าวได้ ในเวลา 14.00 น.
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ณ เวลาประมาณ 10.06 น. มีประชาชนลงทะเบียนสำเร็จแล้ว 4.18 ล้านคน และจะทยอยเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าครึ่งวันแรก จะมีผู้ลงทะเบียนได้ 5-6 ล้านคน
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ในช่วงต้นอาจจะมีการขัดข้องบ้าง เรียกว่ากระแสไฟฟ้ามันดีด เพราะทุกคนเข้าสู่ระบบพร้อมกันและค่อนข้างมาก ขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างคลี่คลาย และแก้ไขไปตามจุด สำหรับประชาชนที่ประสบปัญหาบางคนโหลดแล้วค้าง จากคนเข้ามามาก ระบบการรอคิวทำงานก็ต้องรอเป็นวินาทีหรืออาจจะเป็นนาที แต่ถ้าเกิดว่าค้างจนรู้สึกว่านานเกินไป ก็มีข้อแนะนำจากทีมเทคนิคว่าให้ดำเนินการด้วยการลบแอปพลิเคชัน แล้วโหลดลงใหม่ เพราะอาจจะมีข้อมูลเก่าคงค้างในการโหลดก่อนหน้า ก็จะได้เป็น แอปพลิเคชันทางรัฐเวอร์ชั่นใหม่
โดยในวันนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการคลัง และสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ได้ตั้งวอร์รูมขึ้นเพื่อติดตามการดาวน์โหลดของประชาชนอยู่ตลอด ซึ่งขณะนี้อยู่ในสถานการณ์ปกติ และมีศูนย์บริการทั้งศูนย์ไอทีชุมชน ของกระทรวงดีอี ทั่วประเทศประมาณ 5,000 แห่ง และเบอร์โทรศัพท์สายด่วน 1111 สำหรับการสอบถามข้อมูล และพูดคุยปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อนำไปแก้ไข
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า คาดยอดผู้ลงทะเบียนจะไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคนในวันแรก และเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ ทั้งนี้ กระบวนการลงทะเบียนสำหรับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่เปิดสำหรับคนที่มีสมาร์ทโฟนนั้น จะมีไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย.67 ซึ่งยังมีเวลาหลังจากนี้อีกเดือนครึ่ง ดังนั้นเมื่อประชาชนทยอยลงทะเบียนไปในแต่ละช่วงเวลา การโหลดของตัวแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" ก็จะดีขึ้น และก็จะรองรับได้ตามจำนวนที่ต้องการ
รมช.คลัง กล่าวถึงการรับแลกเงินดิจิทัลเป็นเงินสดนั้นว่า ไม่น่าจะเกิดเร็วขนาดนั้น เพราะเงินยังไม่ถึงมือประชาชนเลย ทั้งนี้ ระบบทั้งหมดจะถูกบันทึกและสามารถตรวจสอบได้ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นจริง จะต้องถูกดำเนินคดีอาญา
"แลกไม่ได้ เงินยังไม่มี เป็นไปไม่ได้ ซึ่งเราก็ติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งมูลค่าเงิน 10,000 บาท ในดิจิทัลวอลเล็ตเท่ากับเงิน 10,000 บาทที่เราถือเป็นแบงก์ ไม่แตกต่าง เพราะฉะนั้นการไปแลกลด ก็ขาดทุน ก็ไม่ควรทำ ไม่ฉลาด" นายจุลพันธ์ กล่าว
พร้อมยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลอย่างรอบคอบและไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งได้ใช้นโยบายทางการคลังมากระตุ้นเศรษฐกิจ และในความยืดหยุ่นของกรอบนโยบายทางการคลังที่ไม่ได้มีปัญหา ไม่ได้มีความเสี่ย งและไม่ได้น่าห่วง
"วันนี้จะใช้การกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เศรษฐกิจโตขึ้นในระดับที่เหมาะสม และเป็นประโยชน์กับประชาชนทั่วประเทศ หรือเราจะรอให้เกิดวิกฤติก่อน แต่รัฐบาลเลือกที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาวิกฤติเกิดขึ้น ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งนี้มากกว่า" นายจุลพันธ์ กล่าว
ส่วนที่เริ่มมีประชาชนย้ายทะเบียนบ้านจากต่างจังหวัดเข้ามาใช้สิทธิในกรุงเทพฯ นั้น รมช.คลัง ยืนยันว่าสามารถย้ายทะเบียนบ้านมาอยู่ในที่อยู่ปัจจุบันได้ก่อนลงทะเบียนรับสิทธิเข้าร่วมโครงการ แต่รัฐบาลจะไม่สามารถอนุโลมให้ใช้ในที่อยู่พื้นที่ปัจจุบันที่ไม่ตรงกับทะเบียนราษฎร์ได้