นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home กรอบวงเงินรวม 20,000 ล้านบาทนั้น ผลปรากฏว่า มีลูกค้าให้ความสนใจรับรหัสเข้าร่วมโครงการเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ปลูกสร้าง และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท
โดยข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ค.67 มีลูกค้ายื่นขอสินเชื่อโครงการดังกล่าวเกินกว่ากรอบวงเงิน และธนาคารอนุมัติสินเชื่อเต็มกรอบวงเงินที่กำหนดแล้ว ดังนั้น กระทรวงการคลัง จึงต้องการให้ ธอส. พิจารณาให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้มีรายได้น้อย ให้ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองเพิ่มขึ้นต่อไป ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการดูแลลูกค้ากลุ่มฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง
"โครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home เป็นโครงการที่ดี สำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย ที่อยากมีบ้านเป็นของตนเอง ได้เข้าถึงสินเชื่อบ้านอัตราดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงผ่อนชำระเงินงวดคงที่นานถึง 5 ปี ซึ่งจะทำให้สามารถวางแผนการผ่อนชำระเงินงวดได้เป็นอย่างดี ดังนั้น ธอส. จึงควรจัดทำโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home เฟส 2 รองรับความต้องการของลูกค้าที่ยังคงมีสูง" นายพิชัย กล่าว
สำหรับโครงการสินเชื่อบ้าน Happy Home เฟส 1 เป็นสินเชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ห้องชุด (คอนโดมิเนียม) ปลูกสร้าง และเพื่อซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัย ในระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5 ปีแรก เพียง 3% ต่อปี อีกทั้งยังมีเงื่อนไขผ่อนปรนให้ผู้มีรายได้ต่อเดือนไม่เกิน 25,000 บาท ได้รับการพิจารณาเกณฑ์รายได้ ไม่เกิน 1 ใน 2 ของรายได้สุทธิต่อเดือน ซึ่งทำให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับวงเงินสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น