ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.49 อ่อนค่า รับดอลลาร์แข็งค่า หลังตัวเลขศก.ออกมาดีคลายกังวลภาวะศก.ถดถอย

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday August 6, 2024 09:26 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.49 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อน ค่าจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.23 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินภูมิภาคและตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์กลับมาแข็งค่า หลังตัวเลขดัชนี ISM ภาคบริการที่ประกาศเมื่อคืนออกมาดี ช่วยให้ตลาดคลายกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ลงได้บ้าง แต่ระหว่างวันต้องรอดู ว่าจะมีปัจจัยใหม่เรื่องอะไรเข้ามาเพิ่มเติม

"บาทอ่อนค่าตามภูมิภาค ทิศทางช่วงนี้ผันผวนหนัก นักลงทุนอยู่ในโหมดหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และปรับพอร์ตลงทุน ทำให้ทุก สินทรัพย์เสี่ยงเกิดความผันผวน" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.30 - 35.60 บาท/ดอลลาร์

SPOT ล่าสุด อยู่ที่ระดับ 35.4225 บาท/ดอลลาร์

  • ปัจจัยสำคัญ
  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 145.67 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 142.17 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0952 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0954 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 35.211 บาท/ดอลลาร์
  • หุ้นไทยดิ่งหนักติดลบ 38.41 จุด ทำนิวโลว์รอบ 4 ปี ปัจจัยลบรุม ทั้งหวั่น ศก.มะกันส่อแววถดถอย แถมผวาสมรภูมิตะวัน
ออกกลางขยายวงเดือด
  • ส.อ.ท.เผยผลโพลชี้เอกชนเชื่อว่าเศรษฐกิจปีนี้โตต่ำกว่า 2% แนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลังทรงตัว หวั่นปรับค่าแรง 400 บาท
เสี่ยงกระทบ
  • เอสแอนด์พี โกลบอล เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ
55.0 ในเดือนก.ค. จากระดับ 55.3 ในเดือนมิ.ย.
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (5 ส.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลกที่ถูกเทขายอย่างหนัก อันเนื่องมาจาก
ความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่าการปรับตัวลงของราคาทองคำจะเกิดขึ้นเพียงชั่ว
คราวเท่านั้น เนื่องจากทองคำยังคงมีแรงดึงดูดในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจและสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์เผชิญกับ
ความไม่แน่นอน
  • สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่ต่ำกว่าคาด และอัตรา
ว่างงานที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี นักลงทุนมองว่าความอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐเกิดจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยช้าเกินไป โดยล่าช้ากว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ที่ได้ปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้ ขณะที่เฟดยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวว่า เฟดควรมีมาตรการตอบรับต่อสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอใน
เศรษฐกิจ และอัตราดอกเบี้ยไม่ควรที่จะเข้มงวดเกินไปในขณะนี้
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโกกล่าวเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) คาดหวังให้มีการปรับลดอัตรา
ดอกเบี้ยลงในปีนี้ แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับกรอบเวลาหรือขอบเขตที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
  • FedWatch Tool ของ CME บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากกว่า 86% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการ

ประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. และให้น้ำหนักเพียง 14% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ