นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากที่ใกล้ถึงวันแม่แห่งชาติ ในวันที่ 12 สิงหาคมของทุกปี ทำให้หลายคนเลือกซื้อดอกมะลิ เพื่อใช้เป็นสื่อสัญลักษณ์แสดงความรักและความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณ จึงทำให้ในช่วงดังกล่าวของทุกปี มีความต้องการใช้ดอกมะลิเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ
ดังนั้น เพื่อป้องปรามมิให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาสินค้า และเอาเปรียบผู้บริโภค อธิบดีกรมการค้าภายใน จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจกรมการค้าภายใน ดำเนินการตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายดอกมะลิ ตามแหล่งจำหน่ายที่สำคัญอย่างใกล้ชิด อาทิ ตลาดปากคลองตลาด ตลาดยอดพิมาน เขตพระนคร และศูนย์กลางตลาดดอกไม้ปากคลองตลาดใหม่ เขตตลิ่งชัน จากที่ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อกำกับดูแลพฤติกรรมทางการค้า สถานการณ์ด้านราคาและปริมาณ ตลอดจนการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่าย เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคได้รับความเป็นธรรมจากการซื้อสินค้า รวมทั้งสั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดด้วย
สำหรับภาพรวมราคาจำหน่ายดอกมะลิในช่วงนี้ ถือว่าราคาที่จำหน่ายไม่ได้แตกต่างไปจากปีก่อนมากนัก ขึ้นอยู่กับขนาด และคุณภาพของดอกมะลิเป็นสำคัญ โดยปัจจุบันราคาจำหน่ายดอกมะลิอยู่ที่ 400-900 บาท/ลิตร ซึ่งราคาดังกล่าว จะมีความเคลื่อนไหวในช่วงสั้น ๆ จากความต้องการของตลาดที่สูงกว่าปกติในช่วงวันสำคัญ ประกอบกับมีฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่แหล่งผลิตที่สำคัญ จึงทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อยลงกว่าปีก่อน ส่วนด้านสถานการณ์การจำหน่ายในปีนี้ไม่คล่องตัวเท่าที่ควร เนื่องจากลูกค้าบางส่วน เลือกที่จะทำกิจกรรมอื่นกับครอบครัวแทนการมอบดอกมะลิ
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เน้นย้ำให้ผู้ประกอบการร้านค้าปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อย่าฉวยโอกาสช่วงวันสำคัญดังกล่าวปรับราคาจำหน่ายสินค้าโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ทั้งนี้ กรมฯ จะจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และหากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ปิดป้ายแสดงราคามีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท กรณีจำหน่ายสินค้าราคาสูงเกินสมควร กักตุนสินค้า และปฏิเสธการจำหน่าย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ