"เบอร์นันเก้"ยอมรับตลาดเงินสหรัฐต้องใช้เวลาเยียวยาอีกระยะหนึ่งจึงจะคืนสู่ภาวะปกติ

ข่าวต่างประเทศ Wednesday May 14, 2008 10:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ภาวะผันผวนในตลาดการเงินลดน้อยลงแล้ว แต่สถานการณ์ในตลาดยังคงใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะกลับสู่ภาวะปกติ
เบอร์นันเก้กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมตลาดเงินซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาแอตแลนต้า ว่า "ที่ผ่านมานั้น เฟดได้ใช้มาตรการผ่อนปรนหลายด้าน รวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ยและอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน เพื่อผ่อนคลายภาวะตึงตัวในตลาดสินเชื่อ อีกทั้งช่วยให้วาณิชธนกิจและธนาคารพาณิชย์สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นและเพื่อให้การปล่อยวงเงินกู้ในระบบเป็นไปตามกลไก"
"มาตรการเหล่านั้นช่วยให้สถานการณ์ในตลาดการเงินมีความคืบหน้ามากขึ้น และช่วยคลี่คลายปัญหาในตลาดปล่อยกู้จำนองที่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน นอกจากนี้ การที่เฟดตัดสินใจให้วาณิชธนกิจหลายแห่งสามารถกู้วงเงินฉุกเฉินจากเฟดได้ในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ช่วยให้นักลงทุนในตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้นด้วย ซึ่งผมและคณะกรรมการเฟดยืนยันว่า เฟดพร้อมที่จะปล่อยวงเงินกู้เพิ่มขึ้นหากจำเป็น" เขากล่าว
อย่างไรก็ตาม เบอร์นันเก้ยอมรับว่า "สถานการณ์ในตลาดการเงินยังคงอยู่ห่างจากภาวะปกติ ซึ่งในที่สุดแล้วทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องกลับไปแก้ไขสาเหตุพื้นฐานที่เกิดจากภาวะตึงเครียดทางการเงิน ซึ่งผมมองว่ากระบวนการนี้ต้องใช้เวลาดำเนินการสักระยะหนึ่ง"
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ เบอร์นันเก้ไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆว่าจะเฟดจะดำเนินการอย่างไรต่อไปต่อภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และไม่ได้ส่งสัญญาณเรื่องแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย ขณะที่หลายฝ่ายวิตกกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เมื่อวานนี้ เจมส์ ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของวาณิชธนกิจเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค กล่าวว่า แม้มีความเป็นไปได้ถึง 75% ที่วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อจะสิ้นสุดลง แต่เขาเชื่อว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐกำลังเริ่มต้นขึ้น
"แม้วิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อคลี่คลายลง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ผมเชื่อว่าเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ระยะถดถอยแล้ว เราประเมินว่ามีโอกาสถึง 1 ใน 3 ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะถดถอยถึงขั้นเลวร้ายและรุนแรงพอๆกับที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2525 " ไดมอนกล่าว สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงาน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ